กลายเป็นความเคยชินไปโดยไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ตัวเองจะต้องแวะไปหาเพื่อนสองคนอยู่ทุกๆวันก่อนกลับเข้าบ้านในยามดึกดื่น ไม่เว้นแม้ซักวันเดียวก็ว่าได้ วันนี้ก็เช่นเคย เมื่อขับรถกลับบ้าน ไม่ได้หลงทางบนถนนอย่างที่เป็นบ่อยๆ แต่กลับหลงหายไปในความเวิ้งว้างข้างในแทน
วันนี้เพื่อนคนแรกไม่อยู่ที่เดิม ที่ๆเค้าเคยอยู่ เพื่อนที่ว่าก็คือเจ้าหมาดำไร้บ้านนั่นเอง หากใครแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบล็อคนี้ตั้งแต่สมัยก่อนยุคหิน ก็อาจจะเคยพอคุ้นๆ กับเรื่องที่เราเคยเขียนถึงเจ้าเพื่อนคนนี้ เค้าคือเจ้าหมาดำ ชอบเห่าดังลั่นน่ากลัว เราเองถือตัวว่าเป็นเพื่อนซี้เค้า ยังไม่กล้าเดินใกล้เลย แต่ทุกๆค่ำคืนที่ขับรถกลับบ้าน เราจะต้องจอดขอผ่านทาง ห้องนอนแสนสุขกลางถนนในซอยของเจ้าหมาน่อย อย่างสำนึกว่า เพราะเราผิดเองที่กลับดึกเกินเวลา เลยต้องรบกวนเวลานอนของเค้า ก็เป็นอย่างนั้นทุกวันที่จะจ้องจอด หยุด ปิดไฟหน้ารถไม่ให้แสบตาเค้า เค้าก็จะค่อยๆลุกขึ้นเดินช้า ช้า ชิว ชิวไปหลบข้างทาง เราก็ผ่านไป จึงค่อยเปิดไฟหน้ารถได้อีกครั้ง.......แต่วันนี้แปลกจริงๆ ไม่รู้ว่าดึกแล้ว เค้าหายไปไหนน่ะ
แต่เพื่อนอีกคน เพื่อนคนนี้มั่นใจได้ว่าเค้าจะรอ รออยู่ตรงที่เดิมเสมอ ไม่เคยไปไหน เค้าจะรอทักเราถึงหน้ารั้วบ้านเชียวหล่ะ เค้าก็คือเจ้าต้นแก้วยักษ์เหนือบ่อเลี้ยงเต่าที่โผล่ออกมาจากรั้วของป้าพิมคุณป้าข้างบ้าน ถึงคนอ่านอาจจะเบื่อที่กำลังจะขอสาธยายได้ แต่ก็ขอซะหน่อย จะบอกว่าไม่ได้โม้น่ะครับ เพื่อนเราคนนี้เจ๋งสุดๆ เราไม่เคยเห็นต้นแก้วที่ไหนจะสูงใหญ่เท่านี้ กะจากสายตาน่าจะประมาณ 6 เมตรได้ จำได้ว่าเห็มาตั้งแต่ตัวเองจำความได้เลยทีเดียว ยังไม่พอ เราไม่เคยเห็นต้นแก้วที่ไหนจะออกดอกไม่เกรงใจใครขนาดนี้มาก่อน เวลาเค้าออกดอกที บานพอๆกับซากุระ เดาเอาเองว่าอาจจะงอกงามได้ขนาดนี้เพราะปุ๋ยมูลเต่าเพื่อนของเจ้าแก้วอีกที สีขาวของเจ้าดอกแก้วขาวจนเหมือนอยากจะท้าทายความมืดของกลางคืนยังไงยังงั้น กลิ่นของเค้าที่บานทีล่ะเป็นพันๆดอกทำให้ลอยไปไกลเป็นสิบๆเมตร ยังขอย้ำว่าไม่ได้โม้จริงจริ๊ง ทุกๆวันไม่ว่าจะกลับบ้านเวลาไหน ขณะที่จอดรอประตูบ้านเปิด ก็จะต้องส่งสายตา ส่งใจไปคุยทักทายเพื่อนซี้คนนี้
เพื่อนคนนี้เค้ามีทั้งความเปราะบางและความไม่เคยท้อถอยอยู่ในตัวเอง คือแม้ว่าดอกแก้วนั้นจะเป็นดอกไม้ที่บอบบางมากและก็มีช่วงที่ได้สดใสเพียงสองค่ำคืน ในคืนที่สาม แค่ลมที่พัดผ่านมาบางๆ เจ้าดอกแก้วก็จะพร้อมใจกันละจากช่อลง แต่เค้าก็ไม่เคยย่อท้อ กลับเหมือนจะยิ่งพยายามออกดอกให้มากยิ่งกว่าเดิมในเพียงอีกสาม สี่ สัปดาห์ต่อมา ที่รักเจ้าต้นแก้วมากที่สุดก็คงจะเป็นตรงที่ เค้าอยู่ตรงนั้นเสมอๆ เพื่อนคนนี้นี่เองที่คอยส่งกลิ่นทักทายเรา คอยส่งความเขียวขจีของหมู่ใบมาให้เย็นสายตา มนุษย์กลางคืนกลับบ้านยามวิกาล ยามที่ชาวบ้านต่างหลับไหลกันหมดแล้วอย่างเรา
ค่ำนี้หลังจากหลงทางในใจ และขับไปบนเส้นทางเดิมๆ จนแล้วจนรอดก็พาตัวเองมาถึงหน้าประตูบ้านได้ ก็ต้องแปลกใจ วันนี้แปลกจริง เพื่อนซี้คนแรก กำลังยืนอยู่ข้างๆเพื่อนซี้คนที่สอง อดโมเมไปเองไม่ได้ว่ามารอเราใช่มั้ยล่ะ อดคิดเอาเองไม่ได้ว่าเพื่อนช่างรู้ใจจริงๆ ว่าเราต้องการพวกเค้าในค่ำคืนแบบนี้ วันนี้เจ้าหมาดำคงเหงาเหมือนเราเลยมาเดินเล่นนวยนาดอยู่จนดึกดื่น และเจ้าต้นแก้วยักษ์ก็ดูไม่สดใสเท่าไหร่ ที่พื้นเกลื่อนไปด้วยกลีบดอกร่วงโรยของเค้า อดที่จะยิ้มๆ กับวันพิเศษนี้ไม่ได้ ถึงจะเหนื่อยล้ายังไง แต่พวกเค้าก็มารอเราอยู่
วันที่ไม่สดใส เพื่อนยังเป็นกำลังใจให้กันเสมอ
จะมีอะไรดีกว่านี้ได้อีกน่ะ
ปล.ขณะที่นั่งเขียนบล็อคอยู่นี้ ก็ดีใจจริงๆที่ในที่สุดก็รู้เท่าทันความอ่อนไหวสุดเหวี่ยงชนิดไร้สาเหตุในวันนี้ของตัวเองได้......จะอะไรได้อีก ไม่พ้นเจอฮอร์โมนเล่นงานอีกแล้วสิเรา อามิตตาพุทธๆ เฮ่อ เจอกันเดือนล่ะครั้งพอน่ะ อ่อนไหวมากกว่านี้ม่ายหวายแล้ววววววววววววววววว
2 ความคิดเห็น:
เขียนเสร็จยังไม่ทันไร แม่นหยั่งกะหมอดูฟันธง เจงๆด้วยยยยยย เฮ้อ ไหนๆก็ไหนๆแล้วถึงตอนนี้ อยากจะขอเป็นตัวแทนมนุษย์เพศ ญ หลายๆคนที่มักถูกเล่นงานด้วยฮอร์โมน เนื่องจากเราเองในอดีตก่อวีรกรรมวีรเวรไว้มากมาย ก็ไอ้ตอนที่เมนส์กำลังจะมาแต่ดันไม่รู้ตัวนี่แหละ
เฮ้อ
และถ้าหากได้มีมนุษย์เพศ ช คนใดหลงอ่านมาได้ถึงตรงนี้ได้ล่ะก้อ อยากให้เข้าใจจริงๆครับว่า มันหนักหนามาก สาหัส
ถ้าหากคุณไปเจอผู้หญิงที่ไหน โวยวาย ร้องไห้ ใจน้อย ไร้เหตุผล ไร้สติ ใส่ล่ะก็ อย่าไปโกรธกันเลยน่ะ เค้าแค่เมนส์กำลังจะมา เห็นใจกันด้วยครับ
ผู้หญิงเมนส์มาก็หมาบ้าดีๆนี่เอง ฮา
โฮ่ง โฮ่ง ครับ ไม่ใช่ ฮา
แหม มาไล่กันต่อหน้าอย่างนี้
อุตสาห์ถามด้วนความห่วงใย
กลับมาไล่กันซะเฉยๆ
จั่วหัวน่าตกใจ
คิดว่า เพื่อนทั้ง2 จะไม่อยู่แล้วซะอีก
เพื่อนนี่ ทำอะไรได้มหัศจรรย์กว่าที่เราคาดคิดจริงๆ
แสดงความคิดเห็น