วันพุธ, พฤษภาคม 31, 2549

Beautiful Stranger

โคมญี่ปุ่นในเรือนเพาะชำ สวนแม่ฟ้าหลวง
30 may 2006
me : "Look at this flowers.like they know from the start how much space between them needed to grow well together."
Ernesto : " Yeah, nature made us so perfect..beautiful ! "
me : Right! we're beautiful..just the way we are. "
ps. ในที่สุดก็เอาชนะความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้นิดนึง เห็นใจคนอื่นอีกหน่อย เอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้าง พอทำไปแล้ว เห็นคนที่เค้ารับยิ้ม เค้าได้รับความช่วยเหลือจากเรา แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

วันอังคาร, พฤษภาคม 30, 2549

...

โทรศัพท์ตอนเที่ยงคืนครึ่งเมื่อคืน
เหมือนโดนปลุกให้ตื่น ให้ลุกขึ้นมา
แล้วก็ยื่นกระจกเงาบานใหญ่ให้
มองเห็นภาพสะท้อนนั้นได้ชัดเจน
ทั้งที่ยังหลับตา แล้วไฟปิดอยู่
เฮ้อ...

Silent Night

When it has no words for ears,
only silent words crowded in mind.
Reveal the sound of weakness inside,
was deeply hidden from the world to hear.
Yet clearly heard by my own
and silence.

วันอาทิตย์, พฤษภาคม 28, 2549

journey to the past

เวลาเย็นๆของวันหนึ่ง นัททักทายผ่านสายมาทางเอมเอสเอน ที่ซึ่งให้เยอรมันกะเมืองไทยใกล้กันได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าบทสนทนาทั่วๆไปพาเราว่ายทวนเวลากลับไปเที่ยวในความทรงจำสมัยเด็กได้ไง คุยกันเรื่องโรงเรียน แอบรู้สึกว่าแก่ขนาดนี้แล้วน่ะเนี่ยะ นึกๆไปแล้วคงไม่ได้เจอนัทมาอาจจะประมาณ10ปีได้ ตอนนี้ภาพในหัวถึงนัทก็เป็น ดญ.ณัฏฐิกา ถักเปียตะขาบแสกกลาง ตาโต เป็นที่หนึ่งของโรงเรียนตลอดตั้งแต่จำความได้ หลั่งไหลเหมือนไขก๊อกที่ไม่ได้เปิดนาน นัทที่เคยนั่งด้วยกันตอน ป. 4 นัทที่เคยช่วยดันหลังเรา(ผู้ซึ่งมีปมด้อยของการซิทอัพไม่เป็น) แล้วก็นับจำนวนครั้งเกินๆให้เรา เวลาครูพละเผลอ ตอนสอบ sit-up นัทที่เคยหุ้นตังค์กันคนละ 5 บาทเพื่อจะซื้อหนูขาวมาเลี้ยง (หลังจากเรากะเอวรินจับลูกกบมาเลี้ยงแต่โดนที่บ้านบังคับให้ปล่อยไป) แต่ยังไม่ทันได้เลี้ยงหนูตายซะก่อน นัทที่เคยโดนเราทายมายากลที่อุตส่าห์ซ้อมมาอย่างดีได้ จ๋อยไปหน่อยๆ(สารภาพก็ได้ว่าจริงๆจับไม่ได้หรอก แค่เผอิญเดาถูกหน่ะแต่ตอนนั้นก็เลยฟอร์มเลยตามเลย) นัทที่ชอบเอาสมุดเกมที่ซื้อมาใหม่มาชวนเล่น นัทที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนเรียนเก่งไม่ได้เป็นพวกงกเรียนเสมอไปทุกคน จำได้ว่าไม่รู้ทำไมนั่งกับนัทแล้วคะแนนสอบขึ้นมาเป็นสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงกับได้รางวัลไปด้วย ทั้งที่ขี้เกียจเท่าเดิม

บอกนัทว่าเรานึกได้แต่ภาพนั้นจริงๆ นึกภาพวิศวกรสาว ที่ผมฟูเหมือนไอสไตน์ไม่ออกจริงๆ นัทก็พยายามจะส่งรูปมาให้ดู แต่ไฟล์ก็ใหญ่มากจนในที่สุดก็ส่งมาไม่สำเร็จ ดีเหมือนกัน เรายังอยากคุยกับ ดญ.ณัฏฐิกา ธนานิมิตร อีกซักพัก ...สนุกกับภาพอดีตในหัว แปลกใจกับความแจ่มชัดของมันซะจริงๆ

จนกว่าเราจะได้พบกันใหม่ในวันหน้า

ps. today is very happy day for me. met lots of people in my past and present in one day.

-see my grandmom and we spent time together before i go to chiang rai.
-mk suki reunion with friends after few months we've been busy about our own life.
-dinner with propaganda gang in the evening..really long time no see since last meeting. met p' tua ex-boss and brother who has influence on me in many ways, always treat me like a man and make me tough.
-finally found "Fiest's cd" that lost for six month!!..it's in my car all the time but i just don't know..silly me!!

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 25, 2549

jakpanee the postcard maniac

หลังจากได้แรงบันดาลใจเล็กๆจาก motorcylediaries ของคุณพ่ออาจานม่อน ว่าอยากจะเกิ๊บอะไรดูบ้าง นึกๆไปก็คิดออกอยู่อย่างเดียว คือ โปสการ์ด
ซึ่งเป็นของที่ไม่ได้เลิกเก็บเพิ่มไปแล้ว เช่นแสตมป์ หรือยางลบ ที่เคยเก็บสมัยเด็กๆ แล้วก็เป็นของที่มีค่าทางจิตใจมากสุด (ไอ้ที่มีค่าเป็นราคานี่ คงไม่มีอะไรให้สะสม) วันนี้กลับบ้านมาลองนั่งนับโปสการ์ดที่มีอยู่ คงมีทำตกหายไปบ้าง นับได้ทั้งหมด 106 ใบ (ไม่ใช่ว่าจะมีคนส่งอะไรให้นักหนา แต่ส่งให้ตัวเองก็เยอะ บังคับคนอื่นส่งมาให้ก็มี ฮิฮิ) เลยได้ฤกษ์ เปิด jakpaneethepostcardmaniac ( www.eenapkaj.blogspot.com ) ความสุขเล็กๆ นอกเหนือไปจากลูกชิ้นเอ็นหมูทุกเย็น อัพบลอคจนเหนื่อย แทนที่ตอนค่ำๆแบบนี้จะเอาเวลาไปทำงาน 5555

วันอังคาร, พฤษภาคม 23, 2549

subj : non 05

วันนี้ยามว่างเว้นจากงานที่ทำเอาหัวปั่นอยู่ แว้บไปเที่ยวเล่นไถลไปถึง บล็อคของคุณพ่ออาจารย์ม่อน (หวังว่าคงไม่ว่ากันน่ะค่ะอาจานม่อน) แล้วก็พบอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเพียบเลย บล็อคที่เต็มไปด้วยมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์ แล้วก็มอเตอร์ไซค์ http://motocyclediaries.blogspot.com/ อยากจะรักอะไรได้ขนาดนี้บ้าง ดูมีความสุขไงไม่รู้ คิดไปแล้วก็นึกยังไม่ออก ต่อจากนั้นเป็นบล็อคเกี่ยวกับ มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ยังไม่ได้อ่านอะไรมากนัก แต่ด้วยความที่ตอนเด็กได้มีโอกาสอยู่เมืองสุรินทร์เมืองช้างมาก่อน เลยรู้สึกชอบช้างมากพอดู คงจะหาเวลาว่างๆอ่านต่อhttp://elephantreintroduction.blogspot.com/ อีกอันก็เป็นบล็อคที่ดูเหมือนจะเป็นเว็บส่วนตัว ไม่เอามาลงดีกว่า แต่อ่านแล้วยิ้มๆ อุ่นๆ เป็นความสุขของวันนี้เลยทีเดียว

วันอาทิตย์, พฤษภาคม 21, 2549

Broken flower(s) (by Jakpanee not Jim Jarmusch)

broken flower on my wall...
it's pink rose and really broken one.
.....
Words disappear,
Words once so clear,
Only echos passing through the night.
The lines on my face,
Your fingers once traced,
Fading reflection of what was.
Thoughts re-arrange,
Familar now strange,
All my skin is drifting on the wind.
Spring brings the rain,
With winter comes pain,
Every season has an end.
I try to see through the disguise,
But the clouds were there,
Blocking out the sun.
Thoughts re-arrange,
Familar now strange,
All my skin is drifting on the wind.
Spring brings the rain,
With winter comes pain,
Every season has an end.
There's an end, There's an end, There's an end, There's an end

Artist: Greenhornes
Song: There Is An End
(featuring Holly Golightly)

วันศุกร์, พฤษภาคม 19, 2549

Dream

Few days ago i had an extraordinary dream. In the dream i was a scientist, one of alien finder team NASA!!! we were trying to decode the mystirious signal that we found and thought it might be from outer space but still in a dark.

One day, the signal was missing and we found out that it's not real. someone fool us and we didn't know who? and what they want. the situation got worst when one of our team disappeared without a clue. i was so scare because in the dream he was my lover ( don't remember the face but he's quite cute hehehe ) he might be in danger or maybe death!!

Finally, we dicovered the source of mystirious signal. it's from us..our own team ( in a future,30 years later!!) they made this thing up because in that time they finally discover other creature from outer space ( real one not a cooling fever gel) till that time they don't want us to give up in our mission. and the one that disappeared was chosen to be the present and future co-ordinator. and he still alive safe and sound.
............................................................
The End

i woke up (late again) excited about the dream. i think i've learn something from this a bit sci-fi dream...first, i should walk by faith not by sight (The Bible)...second, when i think i've lost something, it maybe still right there in front of me ( or i never have it so i can't lost it)...last, i think i watch movies or reading Dan Brown too much!!!

playing not working

working here makes me realize
sometime working is not important than playing
have fun, play with material
try new technique
maybe a stupid one
though it may fail ( sure it is)
it's falling forward

วันพุธ, พฤษภาคม 17, 2549

subj: non 04

I am not myself
Like a leaf of a tree
Waiting to fall and go wherever wind blow
My body is not mine
Gravity keeps my feet on this planet
I'm a tiny creature under the force of nature
Should I be proud of being a part of greatest, mother nature?
Living my very short life harmoniest in this circle

วันอังคาร, พฤษภาคม 16, 2549

begining is ending...ending is begining

"every story has its' ending.
but in real life...every ending is a new start."
comedy movie i don't know the title

วันจันทร์, พฤษภาคม 15, 2549

52 rai, doi tung, London-like weather, sticky rice and unicef order

ฝนตก พายุเข้า อากาศหนาวยะเยือก
มีแต่เสื้อยืดเปื่อยๆกะกางเกงขาก๊วย
บรรยากาศน่านอนมากกว่าทำงาน
แต่ขณะนี้ unicef order ก็ทำให้ปั่นป่วนกันทั้งโรงฝึก
หัวหน้าโรงฝึก ผู้จัดการส่วน คนทำตัวอย่าง
กลายเป็นพนักงานคิวซีบ้าง นั่งแพคของบ้าง
นักออกแบบที่ไม่มีคนทำตัวอย่างให้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนง่อยไม่มีแขนขา
สุดท้ายก็กลายร่างเด็กคิวซีอีกคน
ตรวจกันไปก็โวยกันไป บางอันก็มีเศษขนมติดมั่ง
บางอันก็มีมดขึ้น หนักสุดก็มีข้าวเหนียวติดเป็นเม็ด
คิดไปแล้วยังห่างไกลกับคำว่า professional อีกมาก
แต่ก็ฮา ลองนึกภาพฝรั่งซื้อของไปแล้วแกะออกมาเจอข้าวเหนียวติดอยู่ดิ
"oh it's really come from third world country...5555"

วันอาทิตย์, พฤษภาคม 14, 2549

perfect day

huay nam khun party 03

ได้มาในอีกบรรยากาศของต้นหน้าฝน หลังจากมานั่งสังสรรค์กันตรงนี้มาแล้วทั้งหน้าร้อนจัด แล้วก็หนาวสุดขั้ว เป็นข้อดีแลกกันกับการทำงาน7วันต่อสัปดาห์ แล้วก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้มาสนุกกันแบบนี้กับเพื่อนๆ ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปตามทางที่ต่างกันไป ช่วงนี้แม้คนทั่วไปอาจจะถือว่าเป็นlow seasonของการเที่ยวดอย แต่ตามความคิดเราว่ามันกลับเป็นhigh seasonกว่าหน้าหนาวซะอีก เป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวาสุดๆ เป็นฤดูกาลแห่งความรัก หรือกล่าววอีกนัยก็คือ reproduction period นั่นเอง มองไปบนกิ่งไม้เห็นแมลงสีสวย วิ่งเข้าไปดูก็พบว่ามันกะลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่(ซั่มกันนั่นแหละ แล้วก็ยังไปเขี่ยโดนมันทำให้มันผิดท่าเลย55) ส่องไปในน้ำก็เห็นปลากัดว่ายจู๋จี๋กัน รึฝูงลูกปลานิลกำลังว่ายสำรวจโลกใหม่ของมันกันอยู่ จับปลาขึ้นมาจะกินก็พบว่าเป็นปลาท้องมั่ง รึปลาที่กะลังเลี้ยงลูกอ่อน(ตัวมันจะมีสีแดงๆที่ท้อง) เลยต้องปล่อยมันไปเลี้ยงลูก ดอกไม้ดอกหญ้าข้างทางพร้อมใจกันบานเพื่อล่อให้แมลงมาช่วยมันผสมเกสร ฤดูฝนฤดูแห่งชีวิต ฤดูแห่งการเริ่มต้น ฤดูแห่งความสดใส แล้วก็ทำให้เห็นอะไรหลายอย่าง วงจรของธรรมชาติก็เป็นอย่างนี้เอง คงรวมถึงมนุษย์เราด้วย

แรมหนึ่งค่ำ full moon สวยเว่อร์ๆ อากาศดี มีเพื่อน ปลาเผาอร่อย พริกถั่วเน่าแซบซี้ด
แค่คิดว่าต่อไปอาจจะไม่มีแบบนี้กับเพื่อนๆอีกแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
เพราะงั้นวันนี้ก็ต้องสนุกกับเวลานี้ให้สุดๆ
ต่อไปในอนาคตก็คงเป็นกลายเป็นอดีตที่เวลาพูดถึงกันก็ต้องหัวเราะและยิ้ม
ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว
perfect!

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 11, 2549

farang day

ดอกไม้หรือลูกมันก็ไม่รู้?
and now i can't speak thai anymore.since yesterday was "farang day" start up with taking a walk and did a plants investigation in mfl garden with Ernesto,funny cool spanish london based designer who now join our project at doitung.we found a lots of astonishing plants,we've never seen before.so fresh,flow and fun to talk to someone so imaginative like him,lot of ideas and inspiration flew in the air..i can smell it.Always wonder about mother nature everytime i see stunning creatures.may not understand much but may be what i see and feel it's enough.
end up the day with a little get together at a yard with friends and some farang fromUK and also Ernesto.
star,wine,fireflies,fine nonsense conversation with sound of frogs as a background(that Ernesto thought that was sound of monk praying!) i burst out laughing5555555. what a funny idea of him. monk praying on a top of the hill at 11 pm. 555
that's all..my funny farang day.

วันเสาร์, พฤษภาคม 06, 2549

ALWAYS sunset on third street


"We're related in slightest.
We're completely strangers."
ALWAYS sunset on third street
ที่จริงแล้วเราทุกคนต่างก็เริ่มต้นจากการเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันทั้งนั้น

วันศุกร์, พฤษภาคม 05, 2549

journey 01

at first i decided not to post this journal on ,afraid that you guys might worry that what's got into me or i'm in danger. but it's my blog anyway.why not if i want to.

i have plan for a while to travel somewhere on my own. today i feel like it. my destination was pattaya but after driving for an hour i quite tired. car's running out of gas, freaking without sense of direction so i decided to change direction to bang-saan a bit nearer beach.

found out that i love bang saan than pattaya may be it's long weekend.so there's lots of families and children playing all over the beach.amazing that it was not annoying at all. actually i love sound of kids yelling,laughing mixed with sound of wave and wind as a background make this sea scene much prettier than south beach crowed by bikini girls. i find myself a place on the sandbeach sitting reading thinking writting..to finish one of my story that i write for a while.

my story is not something great. it may because i do believe in "love and beloved in return" or it is just my excuse that i always use to protect myself from being hurt by not going too far..am i a chicken-hearted55? i'm thinking about leave it like that whatever will be will be or else as a person like me i'm not gonna wait endlessly on one's love. anyway i think it'll be linger on for a while..not that long and not that hurt.from now on i'll let it die itself as it grow itself. friendship is what i guarantee it'll always be here.

finally, i've finish my story. i like it much but now i prefer to keep it in my mind only.
at first i think about throw it into garbage but this book i made it myself, i love it and it's not its' fault. so i choose to wash it. dipped it into the sea, paper begin to wet and weak so fast and black ink blur and wipped away leaving only faded words and lines on. besides that black ink and my words become part of the greatest sea.

so i bring my wet book with unreadable story back with me.leave the beach and just finished story behind.
finally i'm home, a little bit of happiness,sadness ,and quite fun!

p.s. you guys don't get me wrong that i'm crazy or i'm in danger...to tell you i'm more than okay. you all who know me well. i just wanna do something cool! hehe or some of you may call it tist-dak or tect-dak whatever. but i feel so cool. don't you think what i did today it's cool that i pretend like i'm in some kind of sad romantic movie umm maybe sophia coppala's one?
and i'm star..hehehe
what should i name this film dee wa?

the man and his old book

what's wrong with the present and what's important of the past?

i know so many people who carry his old favourite book in his bag take it with him everywhere he goes.
the book that he've finished for a long time ago
maybe he read it time after time who'll know?
the book is about his broken dream broken love.
he goes to so many bookstores
to find new interesting one or to make sure to himself that the old one in his hand is the best?
his beautiful sad story.
i don't know.

no matter how much he wants to find new love.
he couldn't find one
because his bag has no empty space for the new book
living his life keep on reading his old book
never let it go though he tell everyone and himself he did
he often talk to everyone about his past and at the end
he tell no one but himself
that it's nothing.
it was over
he fool himself again and again and again
..what's wrong about him
no, he's not blind
just he never take his eyes off his broken book that never turly his
living in prison of his past though he's the one who hold a key to freedom

........................................
may he let himself go someday
or else
may he live as happy as he can in his dream with his old book.

bless him


p.s. it's just thing from my view.this maybe wrong...and this i don't mean to blame on anyone.
all just my opinion...

วันพุธ, พฤษภาคม 03, 2549

who am i why i am here


คืนนี้ยังมีดาว - ซาร่า อายุ ๑๔ ปี
“ในความรู้สึกว่าไม่มีคุณค่า
เหมือนใบไม้ที่แห้งเฉา
เหมือนคนแปลกในสายตาคนอื่น
แต่คืนนี้ยังมีดาว”
“พวกเขามีหน้าที่ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมด้วยตัวของเขาเอง” จอน อึ๊งภากรณ์ .... กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดงาน
เมื่อวันงานเปิดมีการแสดงด้วยแต่ไม่ได้ไป ไงคงจะไปดูให้ได้แน่ๆ ใครสนใจก็ไปดูได้น่ะไม่ไกลอยู่แค่รัชดาเอง ไปให้กำลังใจกันเยอะๆ รูปวาดก็บอกได้เลยว่าสวยคุ้มค่าน่าไปดู(ก็เห็นแค่ผ่านเว็บละน่ะเรา)
เทศกาลศิลปะ : ฉันคือใคร ใยฉันจึงมี who am i why i am here ซึ่งเป็นฝีมือของเด็กๆ ผู้ติดเชื้อทั้ง ๒๖ คน (๑๐-๑๖ ปี) จัดแสดงตั้งแต่วันที่ ๒๙ เมษายน – ๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ณ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต กรุงเทพฯ และจะออกเดินทางไปร่วมแสดงงานกับเด็กๆ ที่มีเชื้อเอชไอวีภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม ๒๕๔๙

วันอังคาร, พฤษภาคม 02, 2549

love is everywhere

marine and ezequiel one couple in mental home in cuba.
they're called "koo koo"
anyway they're in love with each other.