อ่านรายละเอียดต่อได้ที่ http://www.volunteerspirit.org/wb_read.asp?id=297
เป็นความบังเอิญที่ได้ก่อเกิดโครงการนี้ขึ้นมา จากจุดเริ่มเล็กคือพระโจ้เพื่อนของพวกเราเอ่ยว่า ช่วยเอาของวัดไปแจกเด็กๆที่ต้องการหน่อย จนตอนนี้กลายเป็นโปรเจกใหญ่เนื่องจากพอเราเริ่มหาเครือข่ายโรงเรียนในในแดนไกลที่ขาดแคลน ก็มีรายชื่อมากจน เราคิดว่าของจากทางวัดอย่างเดียวคงจะไม่พอแจกจ่ายทั่วถึง ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นโครงการรวบรวมหนังสือ และสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กๆทางอีสาน 19โรงเรียน ยังพ่วงมาด้วยรายชื่อโรงเรียนเด็กๆที่แม่ฮ่องสอนซึ่งต้องการหนังสือ เพราะขาดแคลนมากจากพี่เล็กมาอีกเป็นรายชื่อยาวเหยียด
และเป็นความสุขเล็กๆของวัน ณ ขณะนี้เลยทีเดียว เมื่อชีวิตที่มักได้เร่ร่อนไปโน่นมานี่ทุกรายสัปดาห์ต้องมาจอดลงไม่ไกลไปกว่าสถาณนีรถไฟฟ้าไม่ก็ใต้ดิน กินลมชมแอร์ ไม่ใช่ออกซิเจนจากต้นไม้ แต่อย่างน้อยวันนึงๆจะได้รับโทรศัพท์จากคนที่ไม่รู้จักประมาณ สองสามสายโทรมา ขออาสาแพคของบ้าง โทรมาบริจาคของบ้าง บริจาคสตางค์บ้าง ทำให้ได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ กรุงเทพที่เต็มไปด้วยคอนกรีต ความร้อนและคาร์บอนไดออกไซต์ของเหมือนฉากในการ์ตูน ปอมโปโกะ แรคคูนในเรื่องก็คือพวกเราเองที่สุดท้ายต้องจำยอมอยู่ในป่าคอนกรีต แต่เราก็ยังพอจะหาวิธีรักษาป่าในหัวใจของพวกเราได้
วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 30, 2550
วันพุธ, สิงหาคม 29, 2550
วันจันทร์, สิงหาคม 20, 2550
.
jak รักน่ะเด็กอ้อ says:
เซ็งไอ้ตอนว่างๆแม่งไม่ป่วย พองานเยอะแม่งป่วย
Nim says:
55555
Nim says:
โทดนะ แต่ชีวิตก็งี้
......
เซ็งไอ้ตอนว่างๆแม่งไม่ป่วย พองานเยอะแม่งป่วย
Nim says:
55555
Nim says:
โทดนะ แต่ชีวิตก็งี้
......
วันพุธ, สิงหาคม 15, 2550
โปรเจกก์ขุ้ยเพลงเก่ามาฟังเพราะไม่มีตังค์ซื้อแผ่นใหม่
i've got a symbol in my driveway
i've got a hundred million dollar friends
i've got you a brand new weapon
lets see how destructive we can be
i've got a brand new set of stencils
i've been connecting all the dots
got my plans in a zip lock bag
let's see how unproductive we can be
i've got a light bulb full of anger
and i can switch it on and off
in situations it can be so bright
i can't believe, how pathetic we can be
i've got a perfect set of blueprints
i'm gonna build somebody else
might cost a little more than money
but whats man without his wealth
i've got a phosphorescent secret
but dont you tell nobody else
next thing you know
the whole world will be talking
about all the clues they got
they just ain't no use
they've got us fooled
วันพุธ, สิงหาคม 08, 2550
..
Ooh, its so typical,
love leads to isolation
So you build that wall
Yes, you build that wall
And you make it stronger
Well you have no right to ask me how I feel
You have no right to speak to me so kind
Some day I might find myself looking in your eyes
But for now, well go on living separate lives
Yes for now, well go on living separate lives
Separate lives
love leads to isolation
So you build that wall
Yes, you build that wall
And you make it stronger
Well you have no right to ask me how I feel
You have no right to speak to me so kind
Some day I might find myself looking in your eyes
But for now, well go on living separate lives
Yes for now, well go on living separate lives
Separate lives
วันจันทร์, สิงหาคม 06, 2550
being and perception
เราเกิดมาเป็นคนเพียงคนหนึ่งจริงหรือ
การเป็นตัวตนของคนคนหนึ่งนั้น เราสามารถตอบได้ชัดๆหรือไม่ว่ามันเป็นอย่างไร มีแบบแผนหรือสามารถคำนวณได้จากสมการใดหรือเปล่า
หรือว่าคำว่าตัวตนที่เราพูดถึงกันนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกจากการรับรู้
การรับรู้ที่ไม่สามารถเกิดได้จากฝ่ายเดียว แต่เป็นการรับรู้ตัวตนของคนหนึ่งโดยอีกบุคคลหนึ่ง แม้กระทั่งตัวเองที่เฝ้ามองและพิจารณาตัวเองอยู่ราวกับเป็นสองบุคคลในร่างกายเดียว
แน่นอนว่าการรับรู้ต่อบุคคลหนึ่ง ของสองบุคคลย่อมไม่มีทางเหมือนกันได้เลย
ตัวตนของคนๆหนึ่งอาจต่างออกไปได้เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันรูปแบบ
ถ้าหากลองพิจารณาให้ดี การรับรู้หายใจได้ด้วย มันหายใจเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตเลยทีเดียว
มันแปรเปลี่ยน เติบโต เจ็บป่วยได้ เสมอๆ และแน่นอนว่ามันตายได้อีกด้วย
การรับรู้ไม่มีวันเป็นตัวตนที่แท้จริง มันอาจอยู่ตรงไหนซักแห่งระหว่างจุดที่ใกล้ตัวตนที่จริงแท้ที่สุดไปจนถึงตัวตนที่บิดเบือนสุดขั้ว
โศกนาฏกรรมของความสัมพันธ์มักเกิดจากการรับรู้ที่ไกลจากตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายเสมอๆ
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน แต่แท้จริงกลับเพียงแค่อยู่กับการรับรู้ตัวตนของอีกฝ่ายอย่างบิดเบื้อน ผิดเพี๊ยน
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันในเวลาอันแสนน้อยนิด จากนั้นก็เก็บเอาการรับรู้ตัวตนที่ฟั่นเฟือนของอีกฝ่าย ประทับลงในความทรงจำตลอดนานแสนนาน อาจเป็นความทรงจำที่สวยงาม หรืออาจเป็นความทรงจำเลวร้าย และเจ็บปวด
การรับรู้ผิดเพี๊ยนอาจทำลายตัวตน และทำให้ไม่มีค่าพอบนพื้นที่ความทรงจำใดๆ
เป็นความจริงที่น่ากลัว ถ้าหากในชีวิตหนึ่งของเราแท้จริงแล้วไม่เคยได้อยู่ร่วมกับใครเลยแม้แต่ตัวตนที่แท้ของตัวเอง และได้เพียงแค่อยู่กับการรับรู้ที่ปรุงแต่ง เพราะหัวใจของเราไม่มีประตูเปิดรับแสงสำหรับการมองเห็น และเรามีเพียงสมองไว้คิด วิเคราะห์ ตัดสิน และเก็บความทรงจำ
การเป็นตัวตนของคนคนหนึ่งนั้น เราสามารถตอบได้ชัดๆหรือไม่ว่ามันเป็นอย่างไร มีแบบแผนหรือสามารถคำนวณได้จากสมการใดหรือเปล่า
หรือว่าคำว่าตัวตนที่เราพูดถึงกันนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกจากการรับรู้
การรับรู้ที่ไม่สามารถเกิดได้จากฝ่ายเดียว แต่เป็นการรับรู้ตัวตนของคนหนึ่งโดยอีกบุคคลหนึ่ง แม้กระทั่งตัวเองที่เฝ้ามองและพิจารณาตัวเองอยู่ราวกับเป็นสองบุคคลในร่างกายเดียว
แน่นอนว่าการรับรู้ต่อบุคคลหนึ่ง ของสองบุคคลย่อมไม่มีทางเหมือนกันได้เลย
ตัวตนของคนๆหนึ่งอาจต่างออกไปได้เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันรูปแบบ
ถ้าหากลองพิจารณาให้ดี การรับรู้หายใจได้ด้วย มันหายใจเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตเลยทีเดียว
มันแปรเปลี่ยน เติบโต เจ็บป่วยได้ เสมอๆ และแน่นอนว่ามันตายได้อีกด้วย
การรับรู้ไม่มีวันเป็นตัวตนที่แท้จริง มันอาจอยู่ตรงไหนซักแห่งระหว่างจุดที่ใกล้ตัวตนที่จริงแท้ที่สุดไปจนถึงตัวตนที่บิดเบือนสุดขั้ว
โศกนาฏกรรมของความสัมพันธ์มักเกิดจากการรับรู้ที่ไกลจากตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายเสมอๆ
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน แต่แท้จริงกลับเพียงแค่อยู่กับการรับรู้ตัวตนของอีกฝ่ายอย่างบิดเบื้อน ผิดเพี๊ยน
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันในเวลาอันแสนน้อยนิด จากนั้นก็เก็บเอาการรับรู้ตัวตนที่ฟั่นเฟือนของอีกฝ่าย ประทับลงในความทรงจำตลอดนานแสนนาน อาจเป็นความทรงจำที่สวยงาม หรืออาจเป็นความทรงจำเลวร้าย และเจ็บปวด
การรับรู้ผิดเพี๊ยนอาจทำลายตัวตน และทำให้ไม่มีค่าพอบนพื้นที่ความทรงจำใดๆ
เป็นความจริงที่น่ากลัว ถ้าหากในชีวิตหนึ่งของเราแท้จริงแล้วไม่เคยได้อยู่ร่วมกับใครเลยแม้แต่ตัวตนที่แท้ของตัวเอง และได้เพียงแค่อยู่กับการรับรู้ที่ปรุงแต่ง เพราะหัวใจของเราไม่มีประตูเปิดรับแสงสำหรับการมองเห็น และเรามีเพียงสมองไว้คิด วิเคราะห์ ตัดสิน และเก็บความทรงจำ
วันอาทิตย์, สิงหาคม 05, 2550
pause
is it exist only in an ideal?
can we really pause a time?
I imagine how it's going to be if we can pause at each moment.
a moment the sun shine,
a moment the rain pour,
At a pause, down to a single moment.
will we feel the burn of the sunbeams or the moisture of the juicy rain?
a moment we cry,
a moment of fear,
a moment we smile,
a moment of happiness,
At a pause, down to a single moment.
but how long is one single moment?
next to zero but never zero.
is it long enough to be sad or glad?
At a pause, down to a single moment every song turns into one "a song of silence".
I imagine if we can live a single moment like we are at a pause.
will we above all the feelings? the sadness, the gladness and also the nothingness
I imagine if we can live every one single moment at a pause.
we'll no longer be swallowed by the past or the future.
I imagine.
can we really pause a time?
I imagine how it's going to be if we can pause at each moment.
a moment the sun shine,
a moment the rain pour,
At a pause, down to a single moment.
will we feel the burn of the sunbeams or the moisture of the juicy rain?
a moment we cry,
a moment of fear,
a moment we smile,
a moment of happiness,
At a pause, down to a single moment.
but how long is one single moment?
next to zero but never zero.
is it long enough to be sad or glad?
At a pause, down to a single moment every song turns into one "a song of silence".
I imagine if we can live a single moment like we are at a pause.
will we above all the feelings? the sadness, the gladness and also the nothingness
I imagine if we can live every one single moment at a pause.
we'll no longer be swallowed by the past or the future.
I imagine.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)