วันจันทร์, สิงหาคม 06, 2550

being and perception

เราเกิดมาเป็นคนเพียงคนหนึ่งจริงหรือ
การเป็นตัวตนของคนคนหนึ่งนั้น เราสามารถตอบได้ชัดๆหรือไม่ว่ามันเป็นอย่างไร มีแบบแผนหรือสามารถคำนวณได้จากสมการใดหรือเปล่า
หรือว่าคำว่าตัวตนที่เราพูดถึงกันนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกจากการรับรู้
การรับรู้ที่ไม่สามารถเกิดได้จากฝ่ายเดียว แต่เป็นการรับรู้ตัวตนของคนหนึ่งโดยอีกบุคคลหนึ่ง แม้กระทั่งตัวเองที่เฝ้ามองและพิจารณาตัวเองอยู่ราวกับเป็นสองบุคคลในร่างกายเดียว
แน่นอนว่าการรับรู้ต่อบุคคลหนึ่ง ของสองบุคคลย่อมไม่มีทางเหมือนกันได้เลย
ตัวตนของคนๆหนึ่งอาจต่างออกไปได้เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันรูปแบบ
ถ้าหากลองพิจารณาให้ดี การรับรู้หายใจได้ด้วย มันหายใจเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตเลยทีเดียว
มันแปรเปลี่ยน เติบโต เจ็บป่วยได้ เสมอๆ และแน่นอนว่ามันตายได้อีกด้วย
การรับรู้ไม่มีวันเป็นตัวตนที่แท้จริง มันอาจอยู่ตรงไหนซักแห่งระหว่างจุดที่ใกล้ตัวตนที่จริงแท้ที่สุดไปจนถึงตัวตนที่บิดเบือนสุดขั้ว
โศกนาฏกรรมของความสัมพันธ์มักเกิดจากการรับรู้ที่ไกลจากตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายเสมอๆ
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน แต่แท้จริงกลับเพียงแค่อยู่กับการรับรู้ตัวตนของอีกฝ่ายอย่างบิดเบื้อน ผิดเพี๊ยน
บางคนอาจได้อยู่ร่วมกันในเวลาอันแสนน้อยนิด จากนั้นก็เก็บเอาการรับรู้ตัวตนที่ฟั่นเฟือนของอีกฝ่าย ประทับลงในความทรงจำตลอดนานแสนนาน อาจเป็นความทรงจำที่สวยงาม หรืออาจเป็นความทรงจำเลวร้าย และเจ็บปวด
การรับรู้ผิดเพี๊ยนอาจทำลายตัวตน และทำให้ไม่มีค่าพอบนพื้นที่ความทรงจำใดๆ

เป็นความจริงที่น่ากลัว ถ้าหากในชีวิตหนึ่งของเราแท้จริงแล้วไม่เคยได้อยู่ร่วมกับใครเลยแม้แต่ตัวตนที่แท้ของตัวเอง และได้เพียงแค่อยู่กับการรับรู้ที่ปรุงแต่ง เพราะหัวใจของเราไม่มีประตูเปิดรับแสงสำหรับการมองเห็น และเรามีเพียงสมองไว้คิด วิเคราะห์ ตัดสิน และเก็บความทรงจำ

3 ความคิดเห็น:

Sayo กล่าวว่า...

"Mommy told me someting
A little kid should know
It's all about the devil
And i learned to hate him so
If I forget to say my prayers
The devil jumps with glee
But he feels so awful awful
When he sees me on my knees
So if you feel of trouble
And you never seem to move
Just open up your heart and let the sun shine in..."


(Let the sun shine in / Frente)

Sayo กล่าวว่า...

I miss you jung ..

where have you been... ?

KRISS กล่าวว่า...

เคยคิดว่าตัวเองเป็นภาชนะใส่ประสบการณ์/ความรับรู้ ไม่มีความหมายใดอื่น และเต็มโดยสิ้นเชิงไร้ตัวตน ใส่แล้วก็ถ่ายเทไปที่อื่น พาประสบการณ์ต่างๆมาเจอกัน

แต่เมื่อบางอย่างในตัวตื่นขึ้นภาชนะที่เคยไม่มีตัวตน ก็เริ่มมีรูปร่างเป็นเปลือกห่อหุ้มประสบการณ์ และเปลือกนั้นจะเริ่มรักชอบเกลียดสิ่งที่บรรจุอยู่ และรักชอบเกลียดสิ่งที่บรรจุอยู่ที่อื่น ก็จะเริ่มวิ่งพล่านหานู่นนี่มาใส่ และกำจัดบางส่วนออก พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็ขี้ออกมาเป็นเปลือกพอกตัวไว้จนหนาขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งที่อยู่ภายในนั้นอมตะ แต่เปลือกที่ทำจากขี้นั้นเปราะบาง สุดท้ายจึงมีวันแตกสลายไป