เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้เจอกับพี่คนหนึ่งโดยบังเอิญในลิฟท์ จะว่าไปแล้วเราไม่เคยเจอกันด้วยความตั้งใจซักครั้ง
เพราะครั้งแรกที่เรารู้จักกันเมื่อซัก 4 ปีที่แล้ว ก็เกิดจากความบังเอิญ พี่ปุ้มและแฟนชาวญี่ปุ่นของเค้าดั้นด้นพาตัวเองไปถึงอินเดียเหนือ และเราเจอกันโดยบังเอิญที่เกสเฮ้าส์เก่าๆแห่งหนึ่งในเมืองเลห์ แล้วก็มีโอกาสได้รวมหัวกันเช่ารถจิ๊ปท่องเที่ยวด้วยกันหนึ่งวัน
พอได้เจอกันอีกครั้งก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย เพราะต่างเบียดอยู่ในลิฟต์คนละมุมซึ่งมีคนประมาณสิบกว่าคนได้ ได้แต่ส่งซิกบอกกันว่า จำได้นะๆ
ตอนนี้ได้ข่าวที่น่าตื่นเต้นว่า พี่เค้ามีลูกสาวแล้วชื่อน้อง leh ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า น้องเลห์เป็นผลิตผลจากการไปท่องเที่ยวเมืองเลห์ครั้งนั้นนั่นเอง
แม้น้องเค้าจะเกิดนานแล้วแต่เราเพิ่งได้รู้เพิ่งได้ตื่นเต้น
หวังว่าหากเราบังเอิญเจอกันครั้งหน้าคงได้เจอน้องเลห์ตัวเป็นๆบ้าง
วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 27, 2552
วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 23, 2552
once...in memory
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ได้ไปยืนอยู่บนเขาสูง 12,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล อันเป็นที่ตั้งของ Leh Palace ประเทศอินเดีย แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่โด่งดังมากที่หนึ่งของเมืองนี้ แต่วันนั้นกลับไม่มีใครเลยซักคน อากาศแห้ง แสงแดดจ้า และลมหนาว พัดมาตลอดอย่างไม่มีวี่แววจะหยุดพัก ฉันมองผ่าน ที่ว่าง อากาศ และธงอันศักดิ์สิทธิ์ไปที่เทือกเขาหิมะที่บดบังขอบฟ้า เมื่อเบือนลงไปเบื้องล่างก็จะเห็นภาพตึกราบ้านช่องของเมืองเลห์
สถานที่เช่นนี้ ที่ตรงกลางระหว่างฟ้ากับดิน เตือนให้ฉันนึกได้ว่า ตัวเราที่แสนเล็กและธรรมชาติอันแสนยิ่งใหญ่ อยู่ร่วมกันในที่ว่างเดียวกัน
ฉันก้มลงหยิบหินที่พื้นขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วถามตัวเองว่า หินก้อนนี้มีอะไรต่างไปจากหินที่พื้นดินข้างล่างบ้างหรือไม่
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ได้ไปนั่งลงข้างลำธารสายเล็กๆซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก เกลเซียร์ที่ละลายบนยอดเขาหนึ่งในจำนวนไม่รู้กี่ร้อยพันในเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ เสียงน้ำไหลกระทบหินในร่องลำธารนำความสงบมาให้กับจิตใจที่วุ่นวายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อกวักมือลงไปเพื่อเอาน้ำขึ้นมาดื่มและล้างหน้า ฉันรู้สึกว่า นี่คงเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด พิเศษที่สุด ในเมื่อหิมะบนเทือกเขาสูงนี้ หล่นมาจากฟ้า แล้วก็ละลายลงมาอยู่ในธารน้ำเล็กๆมากมาย ก่อนจะไหลไปรวมกันเป็นแม่น้ำอินดัส ก่อนที่จะลงเรื่อยไปให้คน กิน ดื่ม อาบ ปล่อยของเสียและซากศพต่างๆลงไป
ฉันชะโงกมองลงไปจากทางที่ถูกตัดไว้ลัดเลาะรอบแนวเขาสู่แม่น้ำอินดัส แม่น้ำอินดัสสำหรับฉัน มันดูบ้าคลั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด น้ำไหลเร็ว แรงและมีทิศทางสะเปะสะปะเป็นร้อยๆทิศทาง บางแห่งเห็นเป็นน้ำวน บางแห่งกระแทกกับหน้าผาส่งเสียงที่น่ากลัวจับใจเมื่อคิดว่าคงไม่ได้รับความปราณีใดๆหากตกลงไปในแม่น้ำแห่งนี้
ฉันถามตัวเองว่า น้ำใสในลำธารจากเกลเซียร์ ในแม่น้ำอินดัส ในคงคา หรือน้ำจากก๊อกที่บ้าน ต่างกันอย่างไร อะไรคือศักดิ์สิทธิ์ อะไรคือธรรมดา อะไรคือสายน้ำแห่งชีวิต อะไรคือสายน้ำที่น่าสะพรึงกลัว อะไรคือสะอาด อะไรคือสกปรก อะไรคือธรรมชาติของน้ำ อะไรคือธรรมชาติของสิ่งที่เจืออยู่ในน้ำ อะไรที่ทำให้ฉันสร้างการแบ่งแยกจำกัดความสิ่งต่างๆออกจากกัน ทั้งที่สายน้ำเหล่านี่ต่อเนื่องกันไปไม่เคยขาด
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงเป็นข้ออ้างที่มีน้ำหนักสำหรับการ กลับไป เพื่อเข้าใจ หรือเพื่อสงสัยมากขึ้นก็ไม่รู้ ณ ดินแดนชมพูทวีป เป็นครั้งที่ 3
เพื่อนๆ let's go!
สถานที่เช่นนี้ ที่ตรงกลางระหว่างฟ้ากับดิน เตือนให้ฉันนึกได้ว่า ตัวเราที่แสนเล็กและธรรมชาติอันแสนยิ่งใหญ่ อยู่ร่วมกันในที่ว่างเดียวกัน
ฉันก้มลงหยิบหินที่พื้นขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วถามตัวเองว่า หินก้อนนี้มีอะไรต่างไปจากหินที่พื้นดินข้างล่างบ้างหรือไม่
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ได้ไปนั่งลงข้างลำธารสายเล็กๆซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก เกลเซียร์ที่ละลายบนยอดเขาหนึ่งในจำนวนไม่รู้กี่ร้อยพันในเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ เสียงน้ำไหลกระทบหินในร่องลำธารนำความสงบมาให้กับจิตใจที่วุ่นวายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อกวักมือลงไปเพื่อเอาน้ำขึ้นมาดื่มและล้างหน้า ฉันรู้สึกว่า นี่คงเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด พิเศษที่สุด ในเมื่อหิมะบนเทือกเขาสูงนี้ หล่นมาจากฟ้า แล้วก็ละลายลงมาอยู่ในธารน้ำเล็กๆมากมาย ก่อนจะไหลไปรวมกันเป็นแม่น้ำอินดัส ก่อนที่จะลงเรื่อยไปให้คน กิน ดื่ม อาบ ปล่อยของเสียและซากศพต่างๆลงไป
ฉันชะโงกมองลงไปจากทางที่ถูกตัดไว้ลัดเลาะรอบแนวเขาสู่แม่น้ำอินดัส แม่น้ำอินดัสสำหรับฉัน มันดูบ้าคลั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด น้ำไหลเร็ว แรงและมีทิศทางสะเปะสะปะเป็นร้อยๆทิศทาง บางแห่งเห็นเป็นน้ำวน บางแห่งกระแทกกับหน้าผาส่งเสียงที่น่ากลัวจับใจเมื่อคิดว่าคงไม่ได้รับความปราณีใดๆหากตกลงไปในแม่น้ำแห่งนี้
ฉันถามตัวเองว่า น้ำใสในลำธารจากเกลเซียร์ ในแม่น้ำอินดัส ในคงคา หรือน้ำจากก๊อกที่บ้าน ต่างกันอย่างไร อะไรคือศักดิ์สิทธิ์ อะไรคือธรรมดา อะไรคือสายน้ำแห่งชีวิต อะไรคือสายน้ำที่น่าสะพรึงกลัว อะไรคือสะอาด อะไรคือสกปรก อะไรคือธรรมชาติของน้ำ อะไรคือธรรมชาติของสิ่งที่เจืออยู่ในน้ำ อะไรที่ทำให้ฉันสร้างการแบ่งแยกจำกัดความสิ่งต่างๆออกจากกัน ทั้งที่สายน้ำเหล่านี่ต่อเนื่องกันไปไม่เคยขาด
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงเป็นข้ออ้างที่มีน้ำหนักสำหรับการ กลับไป เพื่อเข้าใจ หรือเพื่อสงสัยมากขึ้นก็ไม่รู้ ณ ดินแดนชมพูทวีป เป็นครั้งที่ 3
เพื่อนๆ let's go!
เติมท้องน้องหมาให้อิ่ม ภาค ๑
เมื่อวัน อาทิตย์ที่ ๒๒ กุมภาที่ผ่านมา พวกเราได้ไปเยี่ยมน้องหมา แมว ถึงบ้านคุณป้านิดา ครอบครัวนี้ใหญ่ขนาด ประมาณ ๕๐๐ ชีวิตได้ค่ะ ประกอบด้วยหมา ๓๐๐ แมว ๒๐๐ ตัว
คุณป้าฝากขอบคุณ และอนุโมทนากับเพื่อนๆพี่ผู้ร่วมกันลงขัน บริจาคมาได้ทั้งหมดเป็น เงิน 12560 บาท
ซึ่ง นำไปซื้อเป็นอาหารหมาและแมว จำนวน 60 กิโลกรัม และที่เหลือเป็นเงิน10000 บาท บริจาคเป็นเงินไปนะคะ ขอขอบคุณ เพื่อนๆจู ชาววิลล่าลาวาณา พี่แน๊ต พี่โก๋ พี่ดวง หญิง นิ้ง นภา นิ่ม ป่าน พี่แจ๊ค พี่แจ๋ว น้องหนิง ชัช อาจารย์มิชิตา ที่ร่วมใจกันเติมท้องน้องหมาให้อิ่มกันค่ะ
ได้ฟังคุณป้านิดาเล่าเกี่ยวกับการดูแลหมา คุณป้าบอกว่า มีค่าใช้จ่ายถึงวันละ 3500 บาท เงินนี้เป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ไฟ ค่าจ้างลูกจ้าง 2 คน เป็นผู้ช่วยดูแล คุณป้าบอกว่าทำมา 30 ปีแล้วค่ะ ตลอดมาเวลาได้ออกทีวีก็มีทั้งคนใจดีเอาอาหารมาเลี้ยง และมีทั้งคนที่ใจร้ายเอาหมามาทิ้งให้คุณป้าเพิ่มขึ้นเรื่อยมา
สำหรับใครที่คิดจะซื้อสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็อยากจะให้คิดกันให้รอบคอบนะคะว่าเราดูแลเค้าไหวหรือเปล่า ก็จะช่วยกันลดปัจจัยให้เกิดสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งน้อยลงค่ะ
คุณป้าบอกว่า ตอนนี้ก็มีความช่้วยเหลือจากมเกษตรมาทำหมันให้หมา และเว็บพันธุ์ทิพย์ทำให้แมว ส่วนเมื่อใดที่ไม่มีเงิน คุณป้าก็จะไปกู้เงินด่วนมาซื้ออาหารให้หมาและแมว ไม่เคยปล่อยให้อด
หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากให้ความช่วยเหลือ สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งซึ่งจริงๆพวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ของเราเช่นกัน ก็ติดต่อคุณป้าได้ค่ะ ที่เบอร์ 0816128334 จักรคิดว่าจักรกับเพื่อนๆน่าจะมีโครงการสองในอนาคตอันใกล้นี้ค่ะ แล้วจะแจ้งข่าวให้ทราบกันต่อไปนะคะ ขอบคุณจากใจค่ะ
คุณป้าฝากขอบคุณ และอนุโมทนากับเพื่อนๆพี่ผู้ร่วมกันลงขัน บริจาคมาได้ทั้งหมดเป็น เงิน 12560 บาท
ซึ่ง นำไปซื้อเป็นอาหารหมาและแมว จำนวน 60 กิโลกรัม และที่เหลือเป็นเงิน10000 บาท บริจาคเป็นเงินไปนะคะ ขอขอบคุณ เพื่อนๆจู ชาววิลล่าลาวาณา พี่แน๊ต พี่โก๋ พี่ดวง หญิง นิ้ง นภา นิ่ม ป่าน พี่แจ๊ค พี่แจ๋ว น้องหนิง ชัช อาจารย์มิชิตา ที่ร่วมใจกันเติมท้องน้องหมาให้อิ่มกันค่ะ
ได้ฟังคุณป้านิดาเล่าเกี่ยวกับการดูแลหมา คุณป้าบอกว่า มีค่าใช้จ่ายถึงวันละ 3500 บาท เงินนี้เป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ไฟ ค่าจ้างลูกจ้าง 2 คน เป็นผู้ช่วยดูแล คุณป้าบอกว่าทำมา 30 ปีแล้วค่ะ ตลอดมาเวลาได้ออกทีวีก็มีทั้งคนใจดีเอาอาหารมาเลี้ยง และมีทั้งคนที่ใจร้ายเอาหมามาทิ้งให้คุณป้าเพิ่มขึ้นเรื่อยมา
สำหรับใครที่คิดจะซื้อสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็อยากจะให้คิดกันให้รอบคอบนะคะว่าเราดูแลเค้าไหวหรือเปล่า ก็จะช่วยกันลดปัจจัยให้เกิดสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งน้อยลงค่ะ
คุณป้าบอกว่า ตอนนี้ก็มีความช่้วยเหลือจากมเกษตรมาทำหมันให้หมา และเว็บพันธุ์ทิพย์ทำให้แมว ส่วนเมื่อใดที่ไม่มีเงิน คุณป้าก็จะไปกู้เงินด่วนมาซื้ออาหารให้หมาและแมว ไม่เคยปล่อยให้อด
หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากให้ความช่วยเหลือ สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งซึ่งจริงๆพวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ของเราเช่นกัน ก็ติดต่อคุณป้าได้ค่ะ ที่เบอร์ 0816128334 จักรคิดว่าจักรกับเพื่อนๆน่าจะมีโครงการสองในอนาคตอันใกล้นี้ค่ะ แล้วจะแจ้งข่าวให้ทราบกันต่อไปนะคะ ขอบคุณจากใจค่ะ
วันพุธ, กุมภาพันธ์ 18, 2552
ความสุขที่เท่
บันทึกย่อ จาก บรรยายธรรม โดย พระอาจารย์มิซูโอะ คเวสโก
ไม่ว่าวันเวลาที่ผ่านไปแล้วจะเป็นอย่างไร เราก็สามารถแก้ไขมันได้ทันที 'ในวันนี้'
อย่างเช่น องคุลีมาร ก็ยังสามารถกลับใจและออกบวชจนบรรลุธรรมได้
ใจของเรานั้นเป็นประธาน ถ้ารวยแต่ใจไม่ดี ก็หาสุขไม่ได้ "ใครๆก็อยากมีความสุขทั้งนั้น"
สุขที่เท่ ใจที่ดี มาจากการศึกษาพระธรรม
จิตอาศัยในถ้ำ ก็คือร่างกายของเรา ถ้าจิตอยู่ในถ้ำก็จะสงบ สบายใจ
"หายใจยาวววววววววววววววววววววววววว"
ความรู้สึกอยู่ที่ไหน จิตก็จะอยู่ที่นั่น เมื่อเรากำหนดให้ความรู้สึกอยู่กับร่างกาย จิตก็จะอยู่กับกาย ไม่ฟุ้งซ่าน
เวลาเรายืน เดิน เราก็กำหนดจิตที่เท้า ที่ก้าวเดินของเรา ไม่คิดอื่นๆ พร้อมกับลมหายใจของเรา
เวลายืน ก็ไม่ต้องหลับตา เพราะว่าจะล้ม(ฮา)
ใจที่สงบ ใจที่ดี นั้นคือ ใจที่มีศีล
ใจที่มีศีล คือ ใจที่ไม่ยินดียินร้ายกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์
ที่มาจาก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
สุขที่เท่ นั้น มาจาก ใจที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา
"สุขกว่าความสงบนั้นไม่มี"
ขอให้เรามาเป็นคนรักสุขภาพใจ กันเถิด
หมายเหตุ ๑ได้ละเว้นการใช้คำศัพท์เทคนิก เช่น ทุขเวทนา สุขเวทนา สฏิปฐาน๔ อาณาปาณสติสูตร เป็นต้น เนื่องจากกระผมไม่ถนัดขอรับ
๒สุขที่เท่=สุขที่แท้ (แต่ได้เขียนให้อ่านออกมาเหมือนสำเนียงเจเปนของท่านมิซูโอะ เพื่ออรรถรสในการอ่านขอรับ)
ไม่ว่าวันเวลาที่ผ่านไปแล้วจะเป็นอย่างไร เราก็สามารถแก้ไขมันได้ทันที 'ในวันนี้'
อย่างเช่น องคุลีมาร ก็ยังสามารถกลับใจและออกบวชจนบรรลุธรรมได้
ใจของเรานั้นเป็นประธาน ถ้ารวยแต่ใจไม่ดี ก็หาสุขไม่ได้ "ใครๆก็อยากมีความสุขทั้งนั้น"
สุขที่เท่ ใจที่ดี มาจากการศึกษาพระธรรม
จิตอาศัยในถ้ำ ก็คือร่างกายของเรา ถ้าจิตอยู่ในถ้ำก็จะสงบ สบายใจ
"หายใจยาวววววววววววววววววววววววววว"
ความรู้สึกอยู่ที่ไหน จิตก็จะอยู่ที่นั่น เมื่อเรากำหนดให้ความรู้สึกอยู่กับร่างกาย จิตก็จะอยู่กับกาย ไม่ฟุ้งซ่าน
เวลาเรายืน เดิน เราก็กำหนดจิตที่เท้า ที่ก้าวเดินของเรา ไม่คิดอื่นๆ พร้อมกับลมหายใจของเรา
เวลายืน ก็ไม่ต้องหลับตา เพราะว่าจะล้ม(ฮา)
ใจที่สงบ ใจที่ดี นั้นคือ ใจที่มีศีล
ใจที่มีศีล คือ ใจที่ไม่ยินดียินร้ายกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์
ที่มาจาก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
สุขที่เท่ นั้น มาจาก ใจที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา
"สุขกว่าความสงบนั้นไม่มี"
ขอให้เรามาเป็นคนรักสุขภาพใจ กันเถิด
หมายเหตุ ๑ได้ละเว้นการใช้คำศัพท์เทคนิก เช่น ทุขเวทนา สุขเวทนา สฏิปฐาน๔ อาณาปาณสติสูตร เป็นต้น เนื่องจากกระผมไม่ถนัดขอรับ
๒สุขที่เท่=สุขที่แท้ (แต่ได้เขียนให้อ่านออกมาเหมือนสำเนียงเจเปนของท่านมิซูโอะ เพื่ออรรถรสในการอ่านขอรับ)
วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 14, 2552
.
สันติภาพ = ท้องฟ้า + หมาจรจัด + พี่ยาม + ร้านก๋วยเตี๋ยว + ร้านของชำ + รถเข็นขายพิซซ่า + กาแฟเย็น + เด็กขี่จักรยาน + มอเตอร์ไซค์รับจ้าง + กองขี้หมา + ร้านปะยาง + ขยะข้างทาง + พวงหรีด +คนต่างชาติ +นกกระจอก + ร้านข้าวแกง + บ้านไม้ + แสงแดด + พวงมาลัย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)