"ข้าพเจ้ากลัวในความต้องการของตัวเอง ความไม่รู้จักเพียงพอ ความไม่รู้จักจบสิ้น
กลัวที่จะต้องตามสังคม เขามีเช่นไร ข้าพเจ้าจะต้องตะเกียกตะกายหาให้มีเท่าและเหมือน
สังคมมีสิ่งฟุ่มเฟือย ตกแต่งมากเท่านี้ ข้าพเจ้าจะต้องมีตาม สังคมมีเหรียญตรา
มียศ และขั้นเท่านั้น ข้าพเจ้าจะต้องไล่กวดตาม
ชีวิตสันโดษ พอใจแค่เฉพาะที่มี และความมักน้อยจะหมดไปหรือนี่"
กลัวที่จะต้องตามสังคม เขามีเช่นไร ข้าพเจ้าจะต้องตะเกียกตะกายหาให้มีเท่าและเหมือน
สังคมมีสิ่งฟุ่มเฟือย ตกแต่งมากเท่านี้ ข้าพเจ้าจะต้องมีตาม สังคมมีเหรียญตรา
มียศ และขั้นเท่านั้น ข้าพเจ้าจะต้องไล่กวดตาม
ชีวิตสันโดษ พอใจแค่เฉพาะที่มี และความมักน้อยจะหมดไปหรือนี่"
โกมล คีมทอง
อันเนื่องมาจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันครบรอบ35ปีแห่งการจากไปของ ครูโกมล คีมทอง
ขอชวนเพื่อนๆไปฟังปาฐกถาในโอกาสนี้ จริงๆก็คือกะหาเพือนไปด้วยกันน่ะเรากะจะไป 55
มูลนิธิโกมลคีมทองขอเชิญร่วมงาน
ปาฐกถามูลนิธิโกมลคีมทองครั้งที่ ๓๒ ประจำปี ๒๕๔๙
"คืนสันติสู่ดวงใจ"
วันพุธที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ณ หอประชุมใหญ่ ม.ศิลปากร วังท่าพระ
๑๒.๐๐ น. - ๑๓.๐๐ น. ลงทะเบียน
สอบถามรายละเอียดโทร ๐๒-๔๑๒๐๗๔๔ , ๐๒-๔๑๒๐๕๒๖
รายละเอียดเพิ่งเติม www.komol.com
สำหรับคนที่ไม่รู้จักครู โกมล จะขอเล่าสั้นๆ สั้นจริงๆ
โดยคัดลอกบางส่วนจากบทบรรณาธิการ สารคดี โดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
หากใครสนใจอ่าน ก็หาอ่านได้จากหนังสือ คน เขื่อน น้ำ ป่า กาแล็กซี
ครูโกมลเป็นครูอาสาโรงเรียนเหมืองห้วยในเขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ซึ่งในขณะนั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ครูโกมลถูกลอบสังหารโดยกลุ่มคอมมิวนิสต์ โดยการเข้าใจผิดว่าเป็นสายของทางการ
โดยในเวลานั้น ครูโกมลอายุยังไม่ครบ 25 ปี
การตายของครูโกมลส่งผลสะเทือนต่อปัญญาชนในยุคนั้น
และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาว
หลายคนเลือกทำงานเพื่อสังคมและคนยากไร้
โกมลคีมทองไม่ใช่นักคิดผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่นักทฤษฎีที่ตกผลึกทางความคิดอย่างชัดเจน
เขาเป็นเพียงครูเล็กๆธรรมดาคนหนึ่งที่กล้าหาญพอที่จะเลือกเส้นทางเดินชีวิตอย่างที่เขาเลือก
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสอนให้รู้ว่า สังคมไทยขาดคนกล้าเสมอ
"สิ่งที่สาธุชนทำลงไว้ ถึงจะเล็กน้อย ก็ยั่งยืนเหมือนรอยที่จาฤกไว้ในศิลา
สิ่งที่ชนต่ำช้าทำลงไว้ ย่อมพินาศไปโดยเร็ว เหมือนรอยที่ขีดลงในน้ำ"
วยาการณศตกะ
ชีวิตนั้นมันสั้นนิดเดียว เราทุกคนกำลังเดินทางไปสู่สุดจบเดียวกัน คือความตาย
ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นทำสิ่งที่จะมีคุณค่าตอบแทนประเทศ และโลกนี้ที่เราเป็นหนี้
ที่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเกิดมาเราก็บริโภค สร้างขยะ มลพิษ
ไม่ใช่สร้างสิ่งที่เป็นเพียงเปลือกนอก อันฉาบฉวย หาสาระไม่ได้และสลายไปตามกาลเวลา
วันนี้เราบอกตัวเองว่าเริ่มได้แล้ว ทุกการเดินทางต้องมีก้าวแรกเสมอ(ใครพูดไว้จำไม่ได้)
คุณหล่ะ?
วันนี้เราบอกตัวเองว่าเริ่มได้แล้ว ทุกการเดินทางต้องมีก้าวแรกเสมอ(ใครพูดไว้จำไม่ได้)
คุณหล่ะ?
1 ความคิดเห็น:
เพราะมีเรื่องที่อยากทำมากมาย ทำให้ต้องใช้ชีวิตที่มีอย่างคุ้มค่า พยายามทำทุกสิ่งที่อยากทำ เผื่อว่าวันพรุ่งนี้ ถ้าเกิดไม่มีลมหายใจแล้ว จะได้ไม่บ่นเสียดายชีวิต ที่ คอยแต่พูดว่า "รู้งี๊ ทำ...ดีกว่า" อีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น