เดี๋ยวนี้คนไปสมุทรสงครามก็เพื่อไปเที่ยวชมหิ่งห้อย
สิ่งมีชีวิตเล็กๆอันน่าอัศจรรย์ที่มีแสงสว่างในตัวเอง
สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่สวยงามแม้มันจะมีอายุอยู่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ
แต่การไปสมุทรสงครามครั้งนี้เรากลับไม่ได้เห็นหิ่งห้อยแม้ซักตัวเดียว
เพราะเป็นการเดินทางไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อการปลูกซ่อมแซม
ป่าชายเลนตามธรรมชาติที่เคยถูกทำลายไปนับหมื่นๆไร่
สมาชิกมีกันอยู่ประมาณ10กว่าคน ซึ่งเป็นมือเก่า และหน้าใหม่อย่างเรา
แล้วก็ได้รู้ว่าการปลูกต้นไม้บนเลนนั้นไม่ได้ใกล้กับคำว่าง่ายเลย
เราปลูกต้นโกงกางลงไปทั้งหมด 260 ต้น อย่างความทุลักทุเล
มีบาดเจ็บกันนิดๆหน่อยๆ
แต่ก็สำเร็จลงได้ความช่วยเหลือจากลุงเทืองและลุงไนเจ้าบ้านแห่ง ต.คลองโคน
ต้นไม้ที่เราปลูกลงไปถ้าจะเทียบก็เป็นเหมือนแค่
ก้อนกรวดก้อนหนึ่งบนเทือกเขาขนาดใหญ่
แล้วจะต้องปลูกไปถึงเมื่อไหร่กันเล่า?
เราคิดแล้วอดไม่ได้ที่จะเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจ
คนหลายๆคนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าจะทำสำเร็จ
อีกคนหลายๆคนมีเป้าหมายและอยากที่จะไปถึงเส้นชัยที่ตัวเองตั้งไว้
แต่คนบางคนเลือกที่จะให้ทั้งหมดที่ตัวเองคิดว่าจะให้ได้
และคนบางคนมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เกินตัวของมนุษย์...สิ่งมีชีวิตเล็กๆสิ่งหนึ่ง
และมุ่งมั่นเดินทางไป แม้ว่าในใจรู้อยู่แล้วว่าอาจจะไม่มีวันไปถึงเส้นชัยนั้นเลย
เมื่อคืนนี้แม้จะไม่มีแสงสว่างเล็กๆที่งดงามของหิ่งห้อย
แต่เรากลับได้เห็นแสงสว่างเล็กๆที่งดงามในตัวของคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งแทน
แสงสว่างเล็กๆของหิ่งห้อยอาจไม่ใช่แสงสว่างที่สาดส่องทางได้
แต่ก็สามารถสร้างความงดงามให้ป่าชายเลนยามค่ำคืนที่มืดมิด
ก็เช่นเดียวกับแสงสว่างเล็กๆของมนุษย์เรา
แม้ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สวยงามหมดจดได้
แต่ก็สามารถสร้างความงดงามเล็กๆให้โลกนี้ได้เช่นกัน
อย่าเพียงแค่ล่องเรือไปเพื่อเที่ยวชมแสงของหิ่งห้อยที่ไหนเลย
เราทุกคนคงมีหนอนหิ่งห้อยในตัวเอง
เพียงเราทำการฟักบ่มหิ่งห้อยของเราเองให้ดี
เพื่อให้หิ่งห้อยในตัวเราส่องสว่างเป็นความดีงามเล็กๆให้กับโลกนี้
1 ความคิดเห็น:
แอบน้ำตาซึมไปสองวิ
แสดงความคิดเห็น