วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 20, 2548

lost in translation

อุปาทานว่าได้ยินเสียงเพลงของ air ในฉากที่นางเอกของเรื่องเดินเที่ยวคนเดียวไปในโตเกียว
ผิดกันแค่ที่นี่ไม่ใช่โตเกียว แต่เป็นย่านชอปปิ้งอันไม่เคยหลับไหลของฮ่องกง
จะมี bill murrayโผล่มามั้ยน่ะ ?
คิดแล้วก็หัวเราะกับความคิดตลกๆสมมุติว่าตัวเองเป็นนางเอกของเรื่อง
จะเรียกว่าเหงาก็คงไม่ใช่ แต่เป็นความรู้สึกเหมือนเป็นคนต่างถิ่น
รอบตัวมีแต่คนแปลกหน้าและภาษาที่ไม่คุ้นเคย
คิดอะไรเพลินๆจนทำให้รู้สึกว่าระยะทางไม่ไกลเลยเมื่อมาถึงที่หมาย
แทนที่จะไปเที่ยววัดอย่างในหนังแต่เป็นการมาเที่ยวผับบนตึกสูงมองเห็นวิวฝั่งเกาลูนแจ่มชัด
วิวนี้ที่ใครๆก็บอกว่าสวยนักหนา แต่คงไม่ใช่สำหรับทุกคน
มันช่างน่าอึดอัดกว่าวิวชายฝั่งทะเลทุกที่ๆเคยเห็นมาในชีวิต
เป็นชายฝั่งทะเลที่มองไม่เห็นแม้แต่เส้นที่น้ำจรดท้องฟ้า หรือดาวซักดวง แต่พราวไปด้วยดวงไฟนับแสนจากตึกระฟ้าทั่วเกาะฮ่องกง
ช่างเถอะ ก็แค่แค่ตั้งใจมาดูการตกแต่งภายในของผับนี้ซึ่งออกแบบโดยนักออกแบบฝีมือฉกาจคนหนึ่ง
แต่ยังไม่ทันที่เครื่องดื่มจะมาเสริฟ ก็รู้สึกได้แล้วว่าไม่น่าจะมานั่งอยู่คนเดียวอย่างนี้ในที่แบบนี้เลย
บรรยากาศน่าอึดอัด แม้จะไม่มีใครสนใจหรืออาจจะไม่สังเกตเห็นว่าเรานั่งอยู่ตรงนั้นเลยก็ได้
น่าเบื่อจนต้องเอากระดาษทิชชูข้างหน้ามาวาดรูปเล่น
อาจจะนานแค่สิบนาทีแต่รู้สึกเหมือนเป็นชั่วโมง
คงจะได้เวลาลุกไปจากที่นี่ซะที
มันคงเป็นเรื่องตลก และน่าหัวเราะเยาะซะจริงๆที่จะคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกและจะมีbill murrayสำหรับหนังชืดๆเรื่องนี้
แต่แล้ว....
เค้าก็มา....
แอนโทนิโอเข้ามาทักพร้อมมีท่าทีแปลกใจเมื่อกล่าวแนะนำตัวและถามว่าจะกลับแล้วหรือ?
"ค่ะ ที่นี่มันน่าเบื่อเกินไป"
"'งั้นให้เกียรติไปนั่งฟังเพลงกับผมต่อได้มั้ย"
แน่นอนไม่มีเหตุผลอะไรที่ควรจะไปกับผู้ชายอิตาเลียน
นอกเสียจากว่า...เค้าจะเหมือน bill murrayเอามากๆ
การสนทนาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าการพูดคุยกันแบบคนเพิ่งรู้จักคนใหม่
จนกระทั่งแอนโทนิโอพูดว่าเค้าไม่เคยรู้สึกตกหลุมรักกับใครในครั้งแรกอย่างนี้มาก่อน
และถามว่าจะไปกับเค้าได้มั้ย ?
คงไม่มีใครไม่รู้ว่านี่คงเป็นคำพูดแสนธรรมดาหากออกมาจากปากของผู้ชายชาวอิตาเลียน
หลังจากขอบคุณ ปฏิเสธและอำลาจากแอนโทนิโอมาได้
หนังกลับมาฉายซ้ำที่ฉากแรก ต่างกันที่เพียงบนใบหน้าของนางเอกมีรอบยิ้มขำกับเรื่องสนุกๆที่เพิ่งผ่านมา
แม้แอนโทนิโอจะไม่ใช่ bill murray แต่เป็นเพียงอิตาเลียนที่ต้องการจะ get laid
แต่อย่างน้อยก็ทำให้หนังที่เกือบจะน่าเบื่อมีสีสันขึ้นมาบ้าง
ไม่รู้ว่าจะโทษแอนโทนิโอหรือตัวเองที่ทำให้เราลืมทางกลับโรงแรมซะงั้น
และคนฮ่องกงก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษไปซะทุกคนเหมือนที่คิด
แต่ก็ยังมีลุงใจดีบอกทางให้ในที่สุด แม้เค้าจะดูไม่ค่อยแน่ใจก็ตาม
รีบๆเดินดีกว่านี่ก็มืดมากแล้ว
ถ้านี่เป็นหนังจริงๆอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเอกอย่างเราก็ได้ ใครจะไปรู้
การก้าวเดินอย่างไม่ลังเล ก็มีอันถูกขัดจังหวะด้วยมือหนึ่งที่ยื่นมาสะกิดข้างหลัง
"ขอโทษน่ะครับ คุณจะไปโรงแรมแปซิฟิกหรือ? มันต้องไปทางนี้ตะหากครับ"
ชายหนุ่มคนนั้นบอกอย่างมีน้ำใจ ท่าทางเค้าคงจะเป็นเจ้าถิ่น
"อ่า ขอบคุณค่ะ"นางเอกของเรื่องส่งยิ้มแห้งๆให้เค้าหนึ่งที
"ผมก็จะไปทางนั้นพอดีไปด้วยกันมั้ยครับ?"เค้ายิ้มเช่นกัน
เป็นรอยยิ้มที่ดูสว่างสดใสมากๆในความคิดของนางเอก
"ขอบคุณค่ะ"
"คุณมาจากไหนครับ?"
"เมืองไทยค่ะ"
"ผมนึกว่าคุณเป็นญี่ปุ่นซะอีก แล้วคุณไปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์มารึยังครับ..."
รอยยิ้มของเค้ายังคงอยู่ใจความทรงจำลางๆ
แม้ว่าจะลืมถามชื่อของเค้า
แต่หนุ่มฮ่องกงคนนี้ก็ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นนวหนังโรแมนติกเรื่องนึงทีเดียว
แค่นี้ก็โรแมนติกมาโขแล้วสำหรับนางเอก
ของเรื่องนี้น่ะ...

ไม่มีความคิดเห็น: