วันอังคาร, มีนาคม 17, 2552

บทเพลงของเจ้านกกระจอก


หากใครเคยอิ่มกับการดูผลงานที่สร้างชื่อของ Majid Majidi มาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Children of heaven หรือ The color of paradise คิดว่าคงจะไม่ผิดหวังกับ The song of sparrows อย่างแน่นอน สำหรับเราแล้ว Majid Majidi ถือเป็นคนทำหนังขั้นเทพ
ในThe song of sparrows เค้าใช้ท่วงทำนองการเล่าเรื่องในแบบที่ไม่แตกต่างจาก Children of heaven มากนัก มาจิดมักนำเอาเรื่องของคนสามัญ คนชนชั้นล่างในสังคมมาบอกเล่า บนพื้นผิวบอกเล่าความทุกข์ยากลำบากของการดำรงชีวิตของคนจน บ้างเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แต่ในอีกมิติเค้านำเสนอความสวยงามของชีวิตอย่างที่มันเป็นอยู่อย่างไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามันถูกแต่งแต้มขึ้น ซึ่งมิติหลังนี้มักเด่นและฉายแสงกว่ามิติของความทุกข์ยาก จนหนังของเค้าแทบไม่เคยเป็นหนังเศร้าสะเทือนใจ แต่กลายเป็นหนังที่เติมเต็มและให้กำลังใจผู้คน
สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนความเชื่อที่มักออกมาในหนังของมาจิดคือ ความแปรเปลี่ยนของชีวิต ไม่ว่าเรื่องที่เราเจอมันจะดีเพียงไหน ในอีกอึดใจถัดมาเราอาจถูกผลักลงมาจากที่สูงนั้น เจ็บสะบักสะบอม หรือบางครั้งที่เราเจอความซวยเข้าให้ ความซวยนั้นที่สุดมันก็จะนำพาเราไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง อีกสถานการณ์หนึ่ง ได้เห็นอีกด้านหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกใหม่กับชีวิตเสมอๆ
Children of heaven เราได้เห็นหัวใจที่ใสสะอาดของเด็กน้อยยากจน เด็กน้อยจากสวรรค์ไม่เป็นคำพูดที่เกินไปเลยจริงๆ
The song of sparrows เราได้เห็นหัวใจของปุถุชน ผู้มีึความอ่อนโยน รักครอบครัว ใจดี เอื้อเฟื้อ ซื่อตรง ในขณะเดียวกับก็มีด้านของความเห็นแก่ตัว คิดคด ยึดมั่นถือมั่น อ่อนแอ แล้วก็ได้เห็นหัวใจที่ซื่อแต่แกร่งเกินเด็ก
สรุปแล้วเชียร์ขาดใจให้ไปดูครับ ตอนนี้เข้าที่ House rca เท่านั้น ไปดูด่วนๆนะเพื่อนๆ

วันอังคาร, มีนาคม 10, 2552

ปลดปล่อย "ทิเบต" 50 ปีแห่งการถูกจองจำ

วันนี้ไปฟังเสวนาเนื่องในโอกาสที่ธิเบตถูกจีนยึดครองมาครบ 50ปีแล้ว
ไม่สามารถเขียนเล่าเรื่องราวอะไรได้ เพราะปมปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นซับซ้อนและมีหลากหลายมิติ
แต่ก็มีประเด็นหนึ่งที่ รู้สึกติดใจทำให้ต้องกลับมาทบทวน
คือประเด็นที่ว่า ทำไมคนไทยจึงมักจะเิพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์ เช่นสถานการณ์ของศาสนาพุทธในพม่า การรุกรานธิเบตของจีน เป็นต้น
สังเกตดูได้จากกลุ่มคนที่มาร่วมงานเสวนาก็เป็นกลุ่มคนเล็กๆจำกัดวงแคบๆ มีแต่เด็กแนว พี่แนว ลุงแนว
ลองคิดๆดู ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคนไทยเราโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบคิดมาก คิดลึก คิดจริงจัง ไม่ชอบความซีเรียส ชอบอะไรชิลล์ๆไปวันๆมากกว่า ก็ถามเพื่อนว่าอะไรที่ทำให้เราเป็นเช่นนั้น เพื่อนให้ความเห็นว่า น่าจะมีพื้นฐานมาจากเรื่องการศึกษา การสอน ไม่ได้ปลูกฝังให้เราชอบคิด
ส่วนหนึ่งที่เราเห็นได้น้อยในสังคมไทยคือ"การออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองเพื่อคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนใช่ญาติใช่คนร่วมชาติ" คนไทยเราเห็นแก่ตัว...จริงหรือ
อีกส่วนหนึ่งคือ ข่าวสารที่มาถึงเราก็มีผลอย่างยิ่ง การนำเสนอข่าวสารความเป็นไปของโลกที่ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ และเป็นเชิงลึกนั้นหาได้น้อยแทบจะไม่มีให้เห็นให้อ่านกัน แต่มันก็เป็นสิ่งที่สะท้อนกันกลับไปกลับมาไม่ใช่หรือ คนเสนอข่าวก็ทำข่าวที่ผู้บริโภคอยากอ่าน ข่าวฆ่ากันตาย ข่าวดารา

สุดท้ายแล้วลำพังแค่ตัวเรา ความรู้งูๆปลาๆกะลาครอบอยู่อย่างนี้ ไม่มีปัญญาตอบคำถามเหล่านี้ของตัวเองได้ คงได้แต่กลับมาเริ่มที่ตัวเราเองก่อน หยุดมองแต่ตัวเองซักครู่ แล้วมองดูรอบๆตัวให้มากกว่านี้ ความละเลยของเราจะได้น้อยลงอีกหน่อย แล้วเริ่มมองคนอื่น มองสังคม มองโลก มองความเป็นจริง

.

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้มีอาการเหมือนคนกลวงๆ
นิยามให้เพื่อนฟังว่า "ไม่มีทุกข์ให้ภาวนา" หรืออาจจะประมาณว่า "มีแต่ตัวเอง"
มันบอกไม่ถูกว่า "แกอยากจะทุกข์...เหรอว่ะ?" ก็ไม่น่าจะใช่นะ
แต่มองย้อนไปเมื่อเวลาที่เราทุกข์ แล้วเราได้กระเสือกกระสนเอาตัวรอด
มันเหมือนจะคิดอะไรได้เยอะ...อย่างไม่น่าเชื่อ

จะว่าความจืดชืดของชีวิตตอนนี้มันก็ทุกข์ไปอีกแบบ ทุกข์กับความกลวงในช่องท้อง
แต่ว่าอะไรๆก็ไม่แน่เสมอไป
เพื่อนเล่าว่า อยู่ๆก็ได้รู้ว่าพี่ที่รู้จักคนหนึ่งเป็นมะเร็งอยู่ได้อีกไม่นาน ทั้งๆที่เพิ่งรู้ตัว และเพิ่งมีอายุยี่สิบกว่าๆ
ความทุกข์อาจจะมาเยือนแบบกระทันหันเมื่อไหร่ก็ได้ เราจึงต้องเตรียมใจให้พร้อมเสมอๆ

วันนี้ได้เรียนรู้ว่า ไม่มีความทุกข์ของตัวเองให้ภาวนา ก็ภาวนาเพื่อผู้ที่ทุกข์สาหัสกว่าเราซึ่งมีมากมายก่ายกองก็ได้ เพื่อที่ว่าหากวันพรุ่งนี้ต้องตายจะได้ไม่เสียดายการมีชีวิตอยู่

วันจันทร์, มีนาคม 09, 2552

หลวงพี่ฟับที

ปลงผม
(ใครคิดเหมือนเราบ้างว่า ได้เห็นรูปนี้ปุ๊ป เห็นหน้าตาท่าทางของหลวงพี่นิตอนปลงผมพี่พีท คิดถึงหลวงพี่นิและความตั้งใจจริงในทุกๆงานที่ทำของท่านจริงๆ) ต่อไปก็กอดพี่พีทไม่ได้แล้วสิ
no coming no going, พี่พีทก็ยังอยู่ตรงนี้




ธรรมสวัสดีพี่น้องทางธรรมที่รักทุกท่านคะ

วันนี้ วันที่ ๘ มีนาคม พวกเราสังฆะที่หมู่บ้านพลัมมีความสุขมากคะที่ได้เข้าร่วมพิธีบวชที่วัดบน หมู่บ้านพลัม วันนี้พี่พีทได้เกิดใหม่แล้วและมีชื่อใหม่ว่า Pháp Thi (ฟับที) หลวงปู่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า True Dharma Offering เกิดอยู่ในครอบครัว Golden Lotus Family (แต่ละกลุ่มที่หลวงปู่บวชให้ท่านจะตั้งชื่อกลุ่มให้คะ) บวชพร้อมกันทั้งสิ้น ๔๖ รูป ที่ฝรั่งเศส ๑๐ รูป ที่เมืองเว้ เวียดนาม ๓๖ รูป (ที่เวียดนามเป็นการบวชออนไลน์คะ)
ส่งรูปที่หลวงพี่ถ่ายมาให้ดูเล่นๆก่อนนะคะ ช่วงทำพิธีนั่งอยู่ด้านหลังจึงได้รูปด้านหลัง เดี่ยวอาทิตย์หน้าได้รูปที่หลวงพี่ช่างภาพถ่าย จะส่งไปให้ดูอีกนะคะ

ด้วยลมหายใจและรอยยิ้มแห่งความสุข
หลวงพี่นิรามิสา
ปล.ตอนแรกเราจะเอาไปโพสต์ใน สังฆะใจอ่ะ แต่ว่าจำพาสเวิรดไม่ได้ทำไงดี

วันอาทิตย์, มีนาคม 08, 2552

My first published poem.

In the early sunlight kiss,
Red roses,
Green leaves,
And blue sea
Vivid
in the name of white.

In the midday canvas of the seashore,
Sand,
Clouds,
And gulls
Painted
in the name of white.

In the late night shadow,
The moon,
The stars,
And the Milky Way
embrace the darkness,
in the name of white.

In the before time realm of the mind,
Purity,
Peace,
And bliss
Glow
in the name of white.

วันเสาร์, มีนาคม 07, 2552

What are you looking for?

Love?

Understanding?

Repect?

Trust?

Path?

Chance?

Strength?

Hope?

Forgiveness?

Freedom?

Happiness?

Peace?

Truth?

Whatever it is.

Look inside yourself.

...I'm telling myself over and over again.

วันพุธ, มีนาคม 04, 2552

ถึงความกลัว ผู้เป็นเพื่อนตายของฉัน

เวลานี้ ฉันกำลังติดกับ
ติดกับความดี
ติดกับความสุข
ติดกับความถูก
ติดกับความเหมาะสม
ติดกับความเชื่อ
ติดกับกระแส
ติดกับ ไม่ขยับเขยื้อน

ปล. คิดถึงเธอทุกวัน

วันจันทร์, มีนาคม 02, 2552

.

To loosen a knot, we need no force but understanding.

วันอาทิตย์, มีนาคม 01, 2552

.

Dried leaf was ripped from a limb of a jasmine tree.
While she was falling down to the ground, a gossamer has got her from dropping.

She cleaves to it,
spining there in the air, round and round, back and forth.

She utter with a sigh...
"No one can hold the death my dear gossamer"

วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 27, 2552

By chance

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้เจอกับพี่คนหนึ่งโดยบังเอิญในลิฟท์ จะว่าไปแล้วเราไม่เคยเจอกันด้วยความตั้งใจซักครั้ง

เพราะครั้งแรกที่เรารู้จักกันเมื่อซัก 4 ปีที่แล้ว ก็เกิดจากความบังเอิญ พี่ปุ้มและแฟนชาวญี่ปุ่นของเค้าดั้นด้นพาตัวเองไปถึงอินเดียเหนือ และเราเจอกันโดยบังเอิญที่เกสเฮ้าส์เก่าๆแห่งหนึ่งในเมืองเลห์ แล้วก็มีโอกาสได้รวมหัวกันเช่ารถจิ๊ปท่องเที่ยวด้วยกันหนึ่งวัน

พอได้เจอกันอีกครั้งก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย เพราะต่างเบียดอยู่ในลิฟต์คนละมุมซึ่งมีคนประมาณสิบกว่าคนได้ ได้แต่ส่งซิกบอกกันว่า จำได้นะๆ

ตอนนี้ได้ข่าวที่น่าตื่นเต้นว่า พี่เค้ามีลูกสาวแล้วชื่อน้อง leh ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า น้องเลห์เป็นผลิตผลจากการไปท่องเที่ยวเมืองเลห์ครั้งนั้นนั่นเอง

แม้น้องเค้าจะเกิดนานแล้วแต่เราเพิ่งได้รู้เพิ่งได้ตื่นเต้น

หวังว่าหากเราบังเอิญเจอกันครั้งหน้าคงได้เจอน้องเลห์ตัวเป็นๆบ้าง

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 23, 2552

once...in memory

ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ได้ไปยืนอยู่บนเขาสูง 12,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล อันเป็นที่ตั้งของ Leh Palace ประเทศอินเดีย แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่โด่งดังมากที่หนึ่งของเมืองนี้ แต่วันนั้นกลับไม่มีใครเลยซักคน อากาศแห้ง แสงแดดจ้า และลมหนาว พัดมาตลอดอย่างไม่มีวี่แววจะหยุดพัก ฉันมองผ่าน ที่ว่าง อากาศ และธงอันศักดิ์สิทธิ์ไปที่เทือกเขาหิมะที่บดบังขอบฟ้า เมื่อเบือนลงไปเบื้องล่างก็จะเห็นภาพตึกราบ้านช่องของเมืองเลห์

สถานที่เช่นนี้ ที่ตรงกลางระหว่างฟ้ากับดิน เตือนให้ฉันนึกได้ว่า ตัวเราที่แสนเล็กและธรรมชาติอันแสนยิ่งใหญ่ อยู่ร่วมกันในที่ว่างเดียวกัน

ฉันก้มลงหยิบหินที่พื้นขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วถามตัวเองว่า หินก้อนนี้มีอะไรต่างไปจากหินที่พื้นดินข้างล่างบ้างหรือไม่

ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ได้ไปนั่งลงข้างลำธารสายเล็กๆซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก เกลเซียร์ที่ละลายบนยอดเขาหนึ่งในจำนวนไม่รู้กี่ร้อยพันในเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ เสียงน้ำไหลกระทบหินในร่องลำธารนำความสงบมาให้กับจิตใจที่วุ่นวายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อกวักมือลงไปเพื่อเอาน้ำขึ้นมาดื่มและล้างหน้า ฉันรู้สึกว่า นี่คงเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด พิเศษที่สุด ในเมื่อหิมะบนเทือกเขาสูงนี้ หล่นมาจากฟ้า แล้วก็ละลายลงมาอยู่ในธารน้ำเล็กๆมากมาย ก่อนจะไหลไปรวมกันเป็นแม่น้ำอินดัส ก่อนที่จะลงเรื่อยไปให้คน กิน ดื่ม อาบ ปล่อยของเสียและซากศพต่างๆลงไป

ฉันชะโงกมองลงไปจากทางที่ถูกตัดไว้ลัดเลาะรอบแนวเขาสู่แม่น้ำอินดัส แม่น้ำอินดัสสำหรับฉัน มันดูบ้าคลั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด น้ำไหลเร็ว แรงและมีทิศทางสะเปะสะปะเป็นร้อยๆทิศทาง บางแห่งเห็นเป็นน้ำวน บางแห่งกระแทกกับหน้าผาส่งเสียงที่น่ากลัวจับใจเมื่อคิดว่าคงไม่ได้รับความปราณีใดๆหากตกลงไปในแม่น้ำแห่งนี้

ฉันถามตัวเองว่า น้ำใสในลำธารจากเกลเซียร์ ในแม่น้ำอินดัส ในคงคา หรือน้ำจากก๊อกที่บ้าน ต่างกันอย่างไร อะไรคือศักดิ์สิทธิ์ อะไรคือธรรมดา อะไรคือสายน้ำแห่งชีวิต อะไรคือสายน้ำที่น่าสะพรึงกลัว อะไรคือสะอาด อะไรคือสกปรก อะไรคือธรรมชาติของน้ำ อะไรคือธรรมชาติของสิ่งที่เจืออยู่ในน้ำ อะไรที่ทำให้ฉันสร้างการแบ่งแยกจำกัดความสิ่งต่างๆออกจากกัน ทั้งที่สายน้ำเหล่านี่ต่อเนื่องกันไปไม่เคยขาด

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงเป็นข้ออ้างที่มีน้ำหนักสำหรับการ กลับไป เพื่อเข้าใจ หรือเพื่อสงสัยมากขึ้นก็ไม่รู้ ณ ดินแดนชมพูทวีป เป็นครั้งที่ 3

เพื่อนๆ let's go!

เติมท้องน้องหมาให้อิ่ม ภาค ๑

เมื่อวัน อาทิตย์ที่ ๒๒ กุมภาที่ผ่านมา พวกเราได้ไปเยี่ยมน้องหมา แมว ถึงบ้านคุณป้านิดา ครอบครัวนี้ใหญ่ขนาด ประมาณ ๕๐๐ ชีวิตได้ค่ะ ประกอบด้วยหมา ๓๐๐ แมว ๒๐๐ ตัว

คุณป้าฝากขอบคุณ และอนุโมทนากับเพื่อนๆพี่ผู้ร่วมกันลงขัน บริจาคมาได้ทั้งหมดเป็น เงิน 12560 บาท
ซึ่ง นำไปซื้อเป็นอาหารหมาและแมว จำนวน 60 กิโลกรัม และที่เหลือเป็นเงิน10000 บาท บริจาคเป็นเงินไปนะคะ ขอขอบคุณ เพื่อนๆจู ชาววิลล่าลาวาณา พี่แน๊ต พี่โก๋ พี่ดวง หญิง นิ้ง นภา นิ่ม ป่าน พี่แจ๊ค พี่แจ๋ว น้องหนิง ชัช อาจารย์มิชิตา ที่ร่วมใจกันเติมท้องน้องหมาให้อิ่มกันค่ะ


ได้ฟังคุณป้านิดาเล่าเกี่ยวกับการดูแลหมา คุณป้าบอกว่า มีค่าใช้จ่ายถึงวันละ 3500 บาท เงินนี้เป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ไฟ ค่าจ้างลูกจ้าง 2 คน เป็นผู้ช่วยดูแล คุณป้าบอกว่าทำมา 30 ปีแล้วค่ะ ตลอดมาเวลาได้ออกทีวีก็มีทั้งคนใจดีเอาอาหารมาเลี้ยง และมีทั้งคนที่ใจร้ายเอาหมามาทิ้งให้คุณป้าเพิ่มขึ้นเรื่อยมา

สำหรับใครที่คิดจะซื้อสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็อยากจะให้คิดกันให้รอบคอบนะคะว่าเราดูแลเค้าไหวหรือเปล่า ก็จะช่วยกันลดปัจจัยให้เกิดสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งน้อยลงค่ะ

คุณป้าบอกว่า ตอนนี้ก็มีความช่้วยเหลือจากมเกษตรมาทำหมันให้หมา และเว็บพันธุ์ทิพย์ทำให้แมว ส่วนเมื่อใดที่ไม่มีเงิน คุณป้าก็จะไปกู้เงินด่วนมาซื้ออาหารให้หมาและแมว ไม่เคยปล่อยให้อด

หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากให้ความช่วยเหลือ สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งซึ่งจริงๆพวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ของเราเช่นกัน ก็ติดต่อคุณป้าได้ค่ะ ที่เบอร์ 0816128334 จักรคิดว่าจักรกับเพื่อนๆน่าจะมีโครงการสองในอนาคตอันใกล้นี้ค่ะ แล้วจะแจ้งข่าวให้ทราบกันต่อไปนะคะ ขอบคุณจากใจค่ะ


อาหารน้องหมา


มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่



คุณป้านิดา





ร้อนแต่ก็สดใส



วันพุธ, กุมภาพันธ์ 18, 2552

ความสุขที่เท่

บันทึกย่อ จาก บรรยายธรรม โดย พระอาจารย์มิซูโอะ คเวสโก

ไม่ว่าวันเวลาที่ผ่านไปแล้วจะเป็นอย่างไร เราก็สามารถแก้ไขมันได้ทันที 'ในวันนี้'
อย่างเช่น องคุลีมาร ก็ยังสามารถกลับใจและออกบวชจนบรรลุธรรมได้

ใจของเรานั้นเป็นประธาน ถ้ารวยแต่ใจไม่ดี ก็หาสุขไม่ได้ "ใครๆก็อยากมีความสุขทั้งนั้น"
สุขที่เท่ ใจที่ดี มาจากการศึกษาพระธรรม
จิตอาศัยในถ้ำ ก็คือร่างกายของเรา ถ้าจิตอยู่ในถ้ำก็จะสงบ สบายใจ
"หายใจยาวววววววววววววววววววววววววว"

ความรู้สึกอยู่ที่ไหน จิตก็จะอยู่ที่นั่น เมื่อเรากำหนดให้ความรู้สึกอยู่กับร่างกาย จิตก็จะอยู่กับกาย ไม่ฟุ้งซ่าน
เวลาเรายืน เดิน เราก็กำหนดจิตที่เท้า ที่ก้าวเดินของเรา ไม่คิดอื่นๆ พร้อมกับลมหายใจของเรา
เวลายืน ก็ไม่ต้องหลับตา เพราะว่าจะล้ม(ฮา)

ใจที่สงบ ใจที่ดี นั้นคือ ใจที่มีศีล
ใจที่มีศีล คือ ใจที่ไม่ยินดียินร้ายกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์
ที่มาจาก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
สุขที่เท่ นั้น มาจาก ใจที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา
"สุขกว่าความสงบนั้นไม่มี"


ขอให้เรามาเป็นคนรักสุขภาพใจ กันเถิด

หมายเหตุ ๑ได้ละเว้นการใช้คำศัพท์เทคนิก เช่น ทุขเวทนา สุขเวทนา สฏิปฐาน๔ อาณาปาณสติสูตร เป็นต้น เนื่องจากกระผมไม่ถนัดขอรับ
๒สุขที่เท่=สุขที่แท้ (แต่ได้เขียนให้อ่านออกมาเหมือนสำเนียงเจเปนของท่านมิซูโอะ เพื่ออรรถรสในการอ่านขอรับ)

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 14, 2552

.

สันติภาพ = ท้องฟ้า + หมาจรจัด + พี่ยาม + ร้านก๋วยเตี๋ยว + ร้านของชำ + รถเข็นขายพิซซ่า + กาแฟเย็น + เด็กขี่จักรยาน + มอเตอร์ไซค์รับจ้าง + กองขี้หมา + ร้านปะยาง + ขยะข้างทาง + พวงหรีด +คนต่างชาติ +นกกระจอก + ร้านข้าวแกง + บ้านไม้ + แสงแดด + พวงมาลัย

วันอังคาร, มกราคม 27, 2552

quickly

If I had twenty million dollars in a vault somewhere baby,

it wouldn't matter anyway

Cause the doctor told me that I'm dying slowly

So I guess I got to love you while I'm here baby

Did you know...the news said the sky is falling,

the globe is warming

my country warring,

leaders are lying,

time is running,

no where to go

I know we just met but baby could you love me

quickly, quickly

I want you to love me like you know the world is about to end baby, quickly

You said you didn't even know my name, but

told me we mind as well make ours the same

What do you think baby (no time)

Think it might as well be light years away, ohhh

We just better land on the stars before they come crashing down

cause I heard the news said

the sky is falling,

the globe is warming

my country's warring,

leaders are lying,

time is running, no where to go

I know we just met but baby could you love me

quickly, quickly

I want you to love me like you know the world is about to end baby,

quickly

-John Legend

วันศุกร์, มกราคม 16, 2552

.

it's the sweet taste of loneliness.
keeping my mouth shut I talk more than ever.
drawning in the air cause my soul need something else to breathe.
someone ask me about his song but I ask her to lick instead of listen.
I'm sitting typing telling myself what I'm feeling.
I guess I fail.
I'm dreamimg a blur dream.

วันศุกร์, มกราคม 09, 2552

.

หากใครเป็นคนขี้หงุดหงิดใจร้อน
ลองไปเดินสัมเพ็งสิคะ
ที่นั่นเราจะได้ฝึกความใจเย็นกับฝูงชนที่คราคร่ำ รถเข็น มอเตอร์ไซค์ขนของ
บนทางเิดินแคบๆแค่เมตรยี่สิบ

หากใครกำลังท้อแท้กับอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต
ลองไปเดินสัมเพ็งสิคะ
ที่นั่นเราจะได้เห็นผู้คนมากมายหลากหลาย
ที่ต่างกำลังต่อสู้เพื่อดำรงชีวิต
ป้าแก่ๆที่นั่งกับพื้น ส่งเสียงโฆษณาขายเครื่องคิดเลขอันละสี่สิบ ด้วยน้ำเสียงนักสู้อันไม่ย่อท้อ
แม่ลูกที่หอบเอาเตาถ่านมาย่างปลาหมึกแห้งขายกันบนพื้น (อันนี้เห็นแล้วทึ่งกะความพยายาม)
อื่นๆอีกมากมายที่สัมเพ็ง

จริงๆแล้วที่บอกว่าให้ไปเดินสัมเพ็ง เพราะถ้าเดินจนสุด ได้เห็นและคิดอะไรได้มากมายแล้ว

ปลายทางตัดกับเยาวราชมีโป๊วเกี่ยลำไยเจ้าเด็ดรออยู่

วันพุธ, มกราคม 07, 2552

.

ปีใหม่ ขอเปลี่ยนสีบล็อคใหม่
หลายปีดีดักที่คนหมู่มากประณามว่า บล็อคแกสีมันมืดมนหดหู่ตลอดเวลา
เอาว่ะ ปีนี้ขอไบรท์ๆเลยเป็นไง ทำเป็นใส พยายามหารูปสวยของตัวเองมาใส่
(เลยเหลือแต่ลูกกะตา)55

วันจันทร์, มกราคม 05, 2552

ชิวตุง




keng tung part 2

flying kite

kite runners

fresh and young


tender and old



simple life




cola bear





mona mona

momo momo



ปล.สวัสดีปีใหม่เด้อ



แอ่วเชียงตุงฟุ้งกันใหญ่ ภาค ๑

วัดที่เค้าว่าถ้าไม่ไปเหมือนมาไม่ถึง ชื่อวัดอารายเนี่ย แป่ว
ขอฉายเดี่ยวซะหน่อย

สายรุ้งถุงพลาสติก แฮปปี้นิวเยียร์ เชียงตุงสไตล์


เพื่อนพเนจร

บูติกก็อยู่ในตลาด




ซี โต๋ว เฟิ่นโรยด้วยปาท่องโก๋ฉีก อาหารเช้าที่เค้าว่าอร่อยสุดๆ


ควัน คน ดอกไม้


ตลาด ที่เป็นเหมือนพารากอน รวมกะเจเจ ตลาดคลองเตย อนุเสาวรีย์


จริงๆแล้วเหมือนหัวใจของเมืองเลยตะหาก


บ้านชาวเชียงตุง สวยไม่ต้องแต่ง
อิมิเกรชั่นที่พวกเราไม่เคยต้องลงไปแสดงตัวเลย เอากะเค้าดิ


ไอ่พวกเด็กเนิรดส์

วันอาทิตย์, มกราคม 04, 2552

.

กลับมาถึงบ้านตอนเกือบหกโมงเช้า ฟ้ายังไม่สว่างดี
ลงจากแท๊กซี่ รอใครซักคนออกมาเป็นประตูให้
ไม่รู้ทำไม สายตาพาไปจับจ้องที่รั้วบ้านตรงข้ามอยู่เนิ่นนาน
พอเข้าบ้าน คำแรกที่ได้ยินก็คือ "น้องปิ๊งตายแล้วนะ ในผับที่ไฟไหม้ ออกมาได้แล้วแต่เข้าไปช่วยเพื่อน เลยไม่รอด"
น้องปิ้งอยู่บ้านตรงข้าม เล่นกันมาตั้งกะเด็กๆ

rest in peace, until we meet again.

วันเสาร์, ธันวาคม 20, 2551

.

memories of the past are like the itchy feeling beneath the scar,

lying there and shows up for sometimes.

some makes me laugh or maybe ashamed, regrets, craved

there are somes that I'm not sure whether I want to remember or entirely forget them.

and many times I can't help thinking to myself "If I wasn't, If I didn't,...."



none of them I could change no matter how much I want to fix the karma I've made

that's not what's god let human like us do.

if i could hear him say,he may say "hold you head up and move on. even though you have to wear your past karma and walking the present. make your best in the here and now."


วันอาทิตย์, ธันวาคม 14, 2551

Mintz Grand Opening

ดีใจและซึ้งใจที่พ่อ แม่ พี่ น้อง ครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนเอาใจช่วย ให้กำลังใจและรอยยิ้มมากมาย กับชีวิตอันนี้ ที่ข้าพเจ้าเลือกละเลงอยู่ในขณะนี้ อยากบอกว่าขอบคุณ in gradtitude จิงๆค้าบบบบบ(จังเกิ้ล)ทุกๆคน

วันศุกร์, ธันวาคม 12, 2551

หนังจีนภาคดึก(โคตรๆ)

scenario ท่านแม่ทัพท่านหนึ่งกำัลังสนทนาภาษาปราชญ์ กับ นักปราชญ์ผู้มีรูปลักษณ์ภายนอกมอซอ ดูคล้ายคนแร่ร่อนหัวฟู หน้าตามอมแมม อยู่ภายในจวนพัก และมีลูกน้องของแม่ทัพโผล่เข้ามาพบ

ลูกน้อง : ท่านแม่ทัพ ...(พลับเหลือบไปเห็นท่านนักปราชญ์) แล้วท่านชายประหลาดผู้นี้คือ?
ท่านนักปราชญ์ : เฮ้ (ยื่นมือออกมาห้ามแบบหนังจีน)ข้าเป็นเพียงคนรากหญ้าคนหนึ่ง ไม่สามารถจะเป็นคนประหลาดได้หรอก อย่าเรียกอย่างนั้นเลย
ท่านแม่ทัพ : เฮ้ (ยื่นมือออกมาห้ามแบบหนังจีน) คนประหลาดก็เป็นประหลาดซิ ท่านจะถ่อมตนไปทำไมกัน

ตกลงว่าเป็นคนประหลาดมันไฮโซเหรอเนี่ยะเิพิ่งจะรู้!

วันอาทิตย์, ธันวาคม 07, 2551

บทเพลงบรรเลงชีวิต

Tokyo Sonata
A Film by Kiyoshi Kurosawa

"ชั้นอยากตื่นมาแล้วพบว่าชีวิตที่ผ่านมาของชั้นเป็นแค่ฝัน ตื่นมาแล้วก็พบว่าชั้นเป็นคนอีกคนหนึ่งไปเลย"

วันเสาร์, ธันวาคม 06, 2551

"a part time lover and a full time friend"

Juno : Dad, it’s not about that. I just need to know if it’s possible for two people to stay happy together forever, or at least for a few years.
Dad: It’s not easy, that’s for sure. Now, I may not have the best track record in the world, but I have been with your stepmother for 10 years now and I’m proud to say that we’re very happy
Dad: In my opinion, the best thing you can do is find a person who loves you for exactly what you are. Good mood, bad mood, ugly, pretty, handsome, what have you, the right person will still think the sun shines out your ass. That’s the kind of person that’s worth sticking with.

ใครพลาด ดูด่วน!

ทำได้มั้ย?

คุณ จ. : ถ้าหากว่าวันนึงเราอยากจะออกจากกรอบกำหนดของสังคมนี้หล่ะ เราทำได้มั้ย เราทำได้มั้ย
คุณข. คุณน. : ทำได้สิ
คุณ จ. : แล้วถ้าหากสิ่งที่เราทำโดยไม่สนกรอบกำหนด แต่เราก็ยังถูกตัดสิน ถ้าเราทำสิ่งที่คนใน"สังคมของพวกเขา"รับไม่ได้ แล้วเค้าก็จับเราไปเข้าคุกหล่ะ

บทสนทนาของวัน ทำให้นึกถึงหนังสือเล่มนี้ ซึ่งโดนใจกับหัวข้อสนทนาซะจริงๆ คนๆหนึ่งซึ่งถูกตัดสินเพราะการกระทำของเขา ไม่เข้าทำนองของ "สังคม" เค้าจึงถูกลงโทษด้วยวิธีการที่สังคมคิดขึ้นมา แต่ในที่สุดแล้วลูกกรงของห้องขังไม่สามารถจองจำอิสรภาพของเขาไว้ได้เลย แม้จนถึงวินาทีประหาร

วันจันทร์, ธันวาคม 01, 2551

.

The moon is there
but I cannot see.
I look
perhaps my eyes are already filled
with light...
It's bright...
like an artificial one.

the skycrappers and the moon
for them I'm nothing
but a blind.